เวลา 13.00 น. วันที่14 มี.ค.66 ศูนย์วิทยุ191 ภูธรจังหวัดอุดรธานี รับแจ้งมีคนร้ายขโมยถังดับเพลิง ที่โรงเรียนเทศบาล 9 มณเฑียรทองอนุสรณ์ เขตเทศบาลนครอุดรธานี ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานีเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุอาคารนวมงคลอนุสรณ์ เป็นอาคารเรียน2ชั้น ที่ชั้น1 ผู้อำนวยการโรงเรียนและครูพาตำรวจตรวจสอบ บริเวณใต้บันใด ซึ่งมีคนร้ายเป็นชาย ขี่รถจยย.พ่วงข้างเข้ามาขโมยถังดับเพลิง สีแดง และสีเขียว ขนาด15ปอนด์ จำนวน2ถัง แล้วขี่รถจยย.หลบไป
จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่า ช่วงเวลา 11.00 น. มีคนร้ายเป็นชาย อายุประมาณ35-40ปี สวมหมวกกันน็อคแบบครึ่งใบ สีขาว สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีน้ำเงิน นุ่งกางเกงยีนส์ขายาว ใส่แมสสีขาว ขี่รถจยย.ฮอนด้าโซนิค สีน้ำเงิน แบบพ่วงข้าง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เข้ามาจอดที่หน้าอาการแล้วเดินเข้าไปถือถังดับเพลิง 2 ถังออกมาจากใต้บันใด วางไว้ที่พ่วงข้างแล้วขี่ออกไปทางด้านหน้าโรงเรียน
นางรัตนาพร จันทะวาลย์ อายุ50ปี ครูสอนชั้นอนุบาล3 เล่าว่า ขณะที่ตนกำลังเดินไปที่ห้อง เห็นชายขี่รถจยย.พ่วงข้างมาจากหลังโรงเรียน แล้วมาจอดหน้าตึก ซึ่งตนคิดว่าเป็นผู้ปกครองมาหาเด็กนักเรียน ตนจึงเดินเข้าห้อง เมื่อเดินออกมาพบว่า ชายคนดังกล่าวได้ถือถังดับเพลิง จากที่เก็บของใต้บันใด เอาไปใส่ที่รถ จากตนจึงสอบถามไปว่า เอาถังไปทำอะไร ชายคนนั้นจึงตอบตนว่าเอามาเปลี่ยน แล้วก็รีบขี่รถจยย.พ่วงข้างออกไปทางหน้าโรงเรียนอย่างรวดเร็ว
จากนั้นตนจึงโทรศัพท์หาผู้อำนวยการโรงเรียน เพื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิด และได้สอบถามไปยัง ป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย ของเทศบาลนครอุดรธานี ว่าได้ส่งเจ้าหน้าที่หรือใครมานำถังดับเพลิงไปเติมหรือเปลี่ยน ซึ่งก็ไม่มีคำสั่งจากหน่วยงาน จึงมั่นใจว่าเป็นคนร้ายเข้ามาขโมยถังดับเพลิง ซึ่งหลังจากเหตุการณ์เกิดขึ้นคณะครูต้องระวัง เพราะได้คุยกับคนร้าย ตนตกใจมากอาจเกิดเรื่องที่ร้ายแรงกับคนในโรงเรียนได้จึงแจ้งไปทางผู้อำนวยการ
นายจักรพงษ์ วรรณขันธ์ ผุ้อำนวยการโรงเรียน เล่าว่า ช่วงเช้าทางโรงเรียนมีการสอบปลายภาคและกิจกรรมปัจฉิมนักเรียนประถมศึกษาปีที่6 ที่จบการศึกษา และช่วงเวลา 11.00 นงมีชายขี่รถจยย.พ่วงข้างเข้ามา โดยมีลักษระท่าทางแปลกๆ สวมหมวกกันน็อคและหน้ากากอนามัย มาจอดหน้าอาคารแล้วเดินไปที่ใต้บันใด หยิบเอาถังดับเพลิงสีเขียวและสีแดงไป จำนวน 2 ถัง มูลค่าประมาณ 3,000 บาท โดยมีครูที่มาพบเห็นและสอบถาม เข้าก็รีบขี่รถออกไป ก็อยากฝากถึงคนร้าย สิ่งของมีลูกค่าไม่มาก ก็อยากจะให้นำเอามาคืนทางโรงเรียน ขอฝากตำรวจให้ช่วยติดตามคนร้าย เพราะการขโมยของในสถานที่ราชการถึงจะมีมูลค่าไม่มาก แต่ความปลอดภัยของนักเรียนและบุคลากรของโรงเรียนถ้าเกิดอะไรร้ายแรงกว่านี้
เบื้องต้นทางตำรวจสืบสวนได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดของโรงเรียน และ ของชุมชน เพื่อหาเบาะแสติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ที่มา : https://www.esandailyonline.com/
