” ปรัชญาใส้ “
ใช้ที่ดินเท่าที่มี แบ่งสัดส่วนให้เหมาะสม ผสมผสานการปลูกพืช ( พืชไร่ , ข้าว, สวนครัว) เลี้ยงสัตว์ ( เป็ด ไก่ กบ ปลา) ลดการใช้ปุ๋ย สารเคมี ยาปราบศัตรูพืช
เปรียบเทียบกับทำธุรกิจ 4.0 หรือการลงทุนคือ ” อย่าใส่ใข่ในตะกร้าใบเดียว” ” รายได้ให้มีมาจากหลายทาง”
ข้าวต้องปลูกเป็นหลัก เพราะเรากินทุกวัน , พืชไร่ เลือกที่จะปลูกมะนาว ให้ผลเร็ว ขายง่ายกินได้ , เลี้ยงเป็ด เอาขี้เป็ดเป็นปุ๋ยในดิน เป็ดกินหอยเชอรี่ศัตรูของข้าว ไข่เป็ดขายได้ทุกวัน
มะนาว บังคับให้ออกนอกฤดู ได้ราคา ให้ผล 500 ลูกต่อต้น/ ปี ปลูก 300 ต้น ราคาลูกละ 20 บาท ที่เหลือแปรรูป เป็นสบู่ , น้ำยา , นะนาวสามรส , มะนาวดอง เก็บไว้กินเป็นปี
ใส้เดือน เลี้ยงไว้ทำปุ๋ยน้ำใส่ต้นมะนาว , ขีใส้เดือนทำปุ๋ยดิน คู่นึงจะมีลูกมัน 1,500 ตัว/ปี ทีประมาณแสนตัว ขายตัวละ 5 บาท
เลี้ยงกบพันธุ์ ” บลู ฟร็อก ” ในกะชัง เลี้ยงง่ายโตเร็ว กินง่าย 3 ตัว/ กก. ๆ ละ 120 บาท เลี้ยงไว้ 20,000 ตัว
การทำเกษตรต้องคิดค้น นวัตกรรมใหม่อยู่เสมอ จากภูมิปัญญา เช่น ชุดวัดสารอาหาร จากกระแสไฟฟ้า , กระบอกไม้ไผ่ใส่หวดนึ่งข้าว , เครื่องมือคัดแยกข้าวพันธุ์ที่ดี , โซ่ล่ามคอหมา ..
จากปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง นำไปปฏิบัติ ทำแบบพอเพียงกินใช้ไปก่อน ที่เหลือขายเป็นกำไร ” 1 ไร่ 1 แสน หายจน”
( ภาพและสรุปคำบรรยาย การศึกษาดูงานไร่สวนเงินเวียนมา อุดรธานี ให้แก่คณะอนุกรรมการตรวจสอบ การยางแห่งประเทศไทย 1-2 มี.ค. 2561 )

ทองแท้ ฟ้าสว่าง รายงาน

ทิ้งคำตอบไว้

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.