ที่เกิดเหตุเป็นโกดังเลขที่ 37/7 ต.คลองพระอุดม อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี เป็นโกดังผลิตกาแฟปลอมเครื่องหมายการค้ายี่ห้อเนสเล่ และพบอุปกรณ์ผลิตและวัตถุดิบจำนวนหลายรายการ เช่น
เครื่องบรรจุ 4 เครื่อง
เครื่องผสม 4 เครื่อง
กาแฟปลอมผลิตสำเร็จแล้ว 249 กล่องใหญ่
กาแฟผสมเสร็จรอบรรจุ 19 ถุง
ครีมเทียม 102 กระสอบ
กล่องบรรจุกาแฟ 480 กล่อง
น้ำตาลทราย 5 กระสอบ
แผ่นฟิลม์ซองโอวัลติน 61 ม้วน(7200 ซอง/ม้วน คิดเป็น 439,200ซอง)
แผ่นฟิลม์ซองกาแฟ 40 ม้วน(288,000 ซอง)
ถุงบรรจุ 7 กล่องๆละ4,000 ถุง)28,000 ถุง
แรงงานต่างด้าว จำนวน 7 ราย เป็นชาย 5 หญิง 2 (ชาวลาวและชาวกะเหรี่ยง) กำลังผลิตกาแฟบรรจุซอง
มีใบอนุญาต จำนวน 2 ราย คือ
นาย ซอ ลา วิทู อายุ 28 ปี สัญชาติพม่า
นางแนน ซาน ออ มู อายุ 29 ปี สัญชาติพม่า
ไม่มีอนุญาตจำนวน 5 ราย
นางแก้ว อายุ 33 ปีสัญชาติ ลาว
นายติ๊ก อายุ 32 ปีสัญชาติลาว
นายตีบ อายุ 37 ปี สัญชาติลาว
นายจ่อย อายุ 44 ปี สัญชาติลาว
นายฉิ่ง อายุ 36 ปี ชาวกระเหรี่ยง
โกดังดังกล่าวมีนายอุเทน ลุสา อายุ 26 นิ อยู่บ้านเลขที่ 324 ม.7 ต.เชียงแสน อ.เชียงแสน อ เชียงราย เป็นเจ้าของแต่ไม่พบตัวอยู่ในที่เกิดเหตุ
ขณะเฝ้าดูในที่เกิดเหตุ พบรถยนต์ยี่ห้อ โดโยต้า หมายเลขทะเบียน 1ฒช 9588 กรุงเทพ (ตรงตามที่สายลับแจ้ง ขับมาในเกิดเหตุ) จึงได้เรียกให้หยุด แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทำการตรวจสอบรถคันดังกล่าว พบ นายทวีเดช อินเทพ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19/1 หมู่ 3 ต.แม่สบข่า จ.เชียงใหม่ และนายอดุลย์ กอนแก้ว อายุ 39 ปี อยู่ที่ 206 หมู่ 5 ต.สันคะเม็ด อ.พาน จ.เชียงราย กำลังนำอุปกรณ์การผลิต เป็นซองโอวัลตินแเปล่ามาส่งยังสถานที่เกิดเหตุ เพื่อใช้ทำการผลิตกาแฟ
