ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง ตะลอนทัวร์หาของกินอร่อยๆและสัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้าน ใกล้ๆกรุงเทพฯ
“ ห่อหมกอร่อย ร้อนๆ นึ่งเสร็จใหม่ๆ มาทางนี้เลยจ้า… ”

“ น้ำตาลสดเย็นชื่นใจ เข้ามาชิมฟรีทางนี้ก่อนได้นะจ๊า…”

เสียงพ่อค้าแม่ขายที่ต่างตะโกนเรียกลูกค้าเข้ามาชม ชิม ช้อปด้วยความยินดี นี่คงเป็นเสน่ห์ของตลาดน้ำเมืองไทย ที่ไม่ว่าจะไปที่ไหน ความมีอัธยาศัยดี หน้าตาที่ยิ้มแย้มของพ่อค้าแม่ขาย ต่างมีให้กับผู้ที่มาเยี่ยมเยือนในถิ่นตนเสมอ ยิ่งเดินเข้าไปลึกขึ้น ความหลากหลายของสินค้ายิ่งมากขึ้น จากทางแยกที่มีสะพานข้ามคลองเล็กๆ ฝั่งขวามือ จะเห็นจุดแรกที่มีทั้งไม้เล็ก เอาไว้ประดับสวนให้ดูน่ารักถนัดตา ไม้มงคลที่ช่วยเสริมสิริมงคลให้กับบ้านของตนก็มีให้เลือกหลายหลาก หรือจะเป็นพืชผักสวนครัวที่จะเอาไปปลูกเพื่อทำอาหารกินกันในครอบครัวก็มีให้เลือกมากมายเหมือนกัน เดินผ่านไปสักระยะหนึ่งสังเกตเห็นผู้เฒ่าผู้แก่ตั้งโต๊ะขายลูกหมากพวงใหญ่ ที่ไม่ค่อยมีให้เห็นมากนักในเมืองหลวง เดินเข้าไปขอแม่เฒ่าลองชิมสักหน่อย รสชาติฝาดเมาไม่มีชิ้นดี เป็นอันต้องคายออกทันที พร้อมทำหน้าหยีว่าเคี้ยวเข้าไปได้ยังไง “คนสมัยก่อนเขาว่ามันฝาดดี” แม่เฒ่าตอบอย่างยิ้มแย้ม เมื่อเดินต่อไปเรื่อยๆ จะเริ่มเข้าสู่ซุ้มทางเดินยาวที่ฝั่งขวาเป็นคลองคูยาว มีให้บริการพายเรือกับนักท่องเที่ยวได้พายเรือเล่นอย่างเพลิดเพลิน ชั่วโมงละ 20 บาท แต่หากรู้สึกว่าพายเท่าไหร่ก็พายไม่ไปเสียที ต้องการมีคนมาช่วยพายก็จะคิดค่าบริการอีก 20 บาท เป็นราคาที่ไม่ขูดรีดนักท่องเที่ยวกระเป๋าเบาอย่างเราดีแท้ นอกจากนี้ยังจะได้แล่นเรือที่เคลื่อนตัวอย่างช้าๆ ลัดเลาะพื้นที่สีเขียวตลอดสองข้างทางของฝั่งคลอง ทั้งสวนผลไม้อย่างสวนมะม่วง และสวนมะพร้าว ก็เป็นประสบการณ์ที่ดูเพลินตา สะดวกใจดีไม่น้อย
เป็นปกติของการมาตลาดน้ำที่หากมองแล้วพื้นที่ไม่ใหญ่มาก จะต้องขอเดินสำรวจของกินเสียหนึ่งรอบ แล้วก็จริงอย่างที่ได้ยินมา ของกินไม่ซ้ำหน้า ตั้งแต่ของคาวน่ารับประมานอย่าง ห่อหมกหมู ซึ่งเป็นของขึ้นชื่อของที่นี่ที่ไม่ไม่ควรพลาด ปลาตะเพียนต้มเค็ม ไข่ปลาหมึกอัดแท่งอร่อยนุ่มหนึบ อาหารทะเลสดอย่างปลาหมึกย่าง หอยแมลงภู่นึ่งตะไคร้ กุ้งแม่น้ำ ราคาไม่แพงอย่างที่คิด สดจริง ถูกจริง เพราะอย่างหอยแมลงภู่นึ่งตะไคร้ที่ได้ซื้อมา ราคาแค่ถุงละ 50 บาท แต่ปริมาณเกินราคาจริงๆ ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน ไส้กรอกโบราณ หอยทอดครก ไก่สะเต๊ะ และน้ำพริกที่มีให้เลือกทานนับสิบอย่าง ขายพร้อมผักเคียงข้างจาน อย่าง ผักกระถิน ผักบุ้ง ผักหนาม ผักดองชนิดต่างๆ ที่ใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นในการแปรรูปพืชผักให้มีการรับประทานนอกฤดูกาล ส่วนขนมหวานที่รู้สึกว่าชีวิตนี้ไม่เคยเห็นมาก่อน ก็คงหนีไม่พ้น “ฝอยเงิน” ที่ใช้ไข่ขาวต้มในน้ำเชื่อมรสหวานชุ่มคอ หรือจะเป็นหมี่กรอบโบราณก็น่ากินไม่แพ้กัน นอกจากนี้ยังมีขนมถ้วย ขนมจาก กล้วยแขก ม้าฮ่อ ขนมตระกูลทอง กาละแมกวน ฯลฯ ซึ่งจะว่าไปก็อยากจะลองชิมอย่างละชิ้น อย่างละอัน แต่หากทำอย่างนั้นจริง น้ำตาลในเลือดคงขึ้นสูงเกินเกณฑ์มาตรฐานแน่นอน (ฮา)

เวลาเที่ยงแบบนี้ ถึงเวลาที่จะได้ชิมก๋วยเตี๋ยวเรือแท้ๆ จากแม่ค้าที่นั่งอยู่บนเรือเทียบท่าริมฝั่ง ทำก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำรสเด็ดมาให้ได้ลิ้มลองความอร่อย ราคาต่อชามตกประมาณ 30-35 บาท เป็นราคาปกติตามร้านทั่วไป โซ้ยไป แซ่บไป ยิ่งได้ทานคู่กับหอยแมลงภู่นึ่งตะไคร้ที่ได้ซื้อมาเมื่อตะกี้ ยิ่งเคี้ยวยิ่งเพลิน มีท่าทีว่าจะหยุดไม่ได้ เคี้ยวไปเคี้ยวมา ก็หมดถุงอย่างไม่รู้ตัว เมื่ออิ่มท้องและพร้อมที่จะเดินกันต่อ อากาศร้อน แดดจ้าในยามบ่ายทำให้ต้องมาสะดุดกับบ้านไม้สักหลังใหญ่ หลังเดียวของตลาดแห่งนี้ เดินข้ามสะพานไม้มายังใต้ถุนบ้านที่มีม้านั่งคอยให้นักท่องเที่ยวมานั่งพัก ดับร้อนกันอย่างสบาย นอกจากจะให้ความร่มเย็นแล้ว ทางเจ้าบ้านยังลงแรงขายน้ำหวานเย็นชื่นใจอย่าง น้ำแดง น้ำเขียว ชา กาแฟโอวัลตินให้ได้ดื่มอย่างชื่นใจอีกด้วย ภายในตัวบ้านมีเรือนไทยหลังเก่าที่แยกตัวจากบ้านหลังใหญ่ ซึ่งเป็นที่เก็บสะสมของโบราณตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นย่าของเจ้าของบ้าน ไม่ว่าจะเป็น นาฬิกาโบราณ ข้าวของเครื่องใช้สมัยก่อน ฯลฯ

เดินไปอีกมุมหนึ่ง ซึ่งเป็นมุมที่เป็นที่ชื่นชอบของครอบครัวอย่าง มุมศิลปะและดนตรีภายในสวนพฤกษาบางน้ำผึ้ง มีเครื่องเล่นอย่างม้าหมุนไว้ให้เด็กเล่นกันอย่างสนุกสนาน หรือจะนั่งวาดภาพ ระบายสีปูนปาสเตอร์เสริมสร้างจินตนาการก็เพลิดเพลินไม่น้อย ส่วนคุณพ่อ คุณแม่ที่รอลูกเล่นสนุก ก็มีมุมให้นั่งฟังเพลงคาราโอเกะจากนักร้องท้องถิ่นมือสมัครเล่น เสนาะหูไปกับเพลงสุนทราภรณ์ เย็นสบายของหมู่ไม้ที่คอยให้ร่มเงา

นอกจากของกินที่มากมายของที่นี่แล้ว ยังมีของใช้ ของฝากให้เลือกซื้อ เลือกฝากกันอีกนับไม่ถ้วน อย่างผลิตผลทางการเกษตรที่ได้จากสวนสดๆ ใหม่ๆ ของชาวบ้านที่นี่ ก็สามาถซื้อได้ในราคาไม่แพงเลยทีเดียว เช่น มะพร้าวอ่อน น้อยหน่า หมาก มะเขือเทศ หรือจะเป็นของฝากที่จะซื้อไปฝากให้เพื่อน หรือครอบครัวที่รักยิ่ง เช่น ของประดิษฐ์จากลูกมะพร้าว ลูกปัด เสื้อผ้า กระเป๋าผ้า กระเป๋าสาน และโปสการ์ด หรือจะเป็นสินค้า OTOP ที่รังสรรค์จากคนในชุมชนบางน้ำผึ้ง และตำบลใกล้เคียงในจังหวัดสมุทรปราการ เช่น ดอกไม้เกล็ดปลา บ้านธูปสมุนไพร ผลิตภัณฑ์จากทะเล แม้จะเป็นตลาดน้ำเล็กๆ แต่ก็อบอวลไปด้วยความอบอุ่นจากพ่อค้าแม่ขายที่ล้วนมีแต่ความยิ้มแย้ม ต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยความยินดีและจริงใจ จึงไม่มีข้อสงสัยที่ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง ยังคงมีความคึกคักไม่เคยจากตลอดช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวอย่างตลาดน้ำบางน้ำผึ้งแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอย่าง วัดมอญต่างๆ ป้อมพระจุลจอมเกล้า ฯลฯ ให้ไปเที่ยวชมกันอีกด้วย

ที่ตั้ง: วัดบางน้ำผึ้ง ต.บางน้ำผึ้ง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ
ติดต่อ: องค์การบริหารส่วนตำบลบางน้ำผึ้ง โทร 02-819-6762

การเดินทาง: ใช้ทางด่วนมาลงที่ถนนสุขสวัสดิ์ เมื่อลงจากทางด่วนขับมาเรื่อย ๆ จะพบสามแยกพระประแดง–สุขสวัสดิ์ ให้เลี้ยวซ้ายตรงสถานีบริการน้ำมัน พอมาถึงตลาดพระประแดงให้เลี้ยวซ้ายผ่านวัดทรงธรรมวรวิหาร อีกประมาณ 5 กิโลเมตร จะพบป้ายบอกทางเข้าตลาด ให้เลี้ยวขวาเข้ามาอีกประมาณ 1 กิโลเมตร จะถึงสถานีอนามัยบางน้ำผึ้งซึ่งเป็นที่จอดรถ

ช่วงเวลาท่องเที่ยว: วันเสาร์และอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 08.00 – 16.00 น.

ทิ้งคำตอบไว้

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.