ขอนแก่น คณะทำงาน ผู้กองธรรมนัส ลงพื้นที่ “คืนชีพสะพานไม้ข้ามคลองชลประทาน”

Looking for high quality fake rolex watches? Check out eastwatches.me.

Welcome to High Quality replica watches Sales Online Store, Buy the Best Replica Watches in the UK.

High Quality AAA breitling replica uk online sales for you.

คณะทำงาน รมต.เกษตรฯ ลงสำรวจความเดือดร้อนผู้ใช้สะพานข้ามคลองชลประทาน ต้องการปรับปรุง สร้างสะพานใหม่ให้ตรงจุดในการลำเลียงพืชผลทางการเกษตรในเขตอำเภอน้ำพอง ต้องใช้งบกว่า 10 ล้านบาท

นายพงศกรณ์ เสาร์ทน คณะทำงานรัฐมนตรี ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายพลนเรศ พันนา หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมชลประทานหนองหวาย และคณะ เดินทางเข้าพบชาวบ้านที่ต้องการใช้สะพานเก่าซึ่งเป็นสะพานไม้ที่ไม่ได้ใช้งาน และชำรุด ให้กลับมาใช้งานเหมือนเดิม พร้อมทั้ง เสริมสะพานเดิมให้ผิวการจราจรเสมอกับพื้นถนน เพื่อสะดวกในการลำเลียงพืชผลทางการเกษตร และสามารถสัญจรได้อย่างสะดวก ได้ได้ทำการสำรวจตั้งแต่สะพานไม้ บ้านสำโรง, บ้านโนนแดง ต.บ้านขาม, เสริมผิวการจราจรสะพานบ้านหัวบึง-จำปา, สร้างสะพานไม้ใหม่บ้านทรายมูล เสริมสะพานคอนกรีตบ้านทรายมูล และก่อสร้างสะพานไม้บ้านคอกวัว ตรงข้ามวัดป่าพันชาด ต.ทรายมูล อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น  จำนวน 6 จุด

นายพงศกรณ์ เผยว่า จากการที่ได้รับเรื่องร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนที่อาศัยบริเวณสองฝั่งคลองชลประทานหนองหวาย ซึ่งเป็นคลองระบายน้ำขนาดใหญ่ ได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากสะพานที่มีอยู่เดิม คือสะพานไม้ ไม่สามารถใช้งานได้ และสะพานคอนกรีตผิวการจาจรไม่เสมอกัน จึงได้ประสานไปยังทางชลประทานหนองหวาย ส่งเจ้าหน้าออกมาสำรวจเพื่อตอบสนองความต้องการของเกษตรกร พบว่า มีสะพานไม้ที่ต้องทำการก่อสร้างใหม่แทนสะพานเดิมที่ไม่สามารถใช้งานได้ 4 จุด แต่ละจุด จะใช้งบประมาณ 5 ล้านบาท พร้อมกับทำการขยายปรบปรุงพื้นผิวสะพานเดิมให้เสทอ หรือระยะลาดเอียดเท่ากับผิวถนนที่ทำการก่อสร้างใหม่อีกจำนวน 2 จุด

หลังจากการตรวจสอบ ทางวิศวกรแจ้งว่าสามารถทำการก่อสร้างได้เลย หากการผ่านอนุมัติงบประมาณ ได้สะพานสร้างใหม่จะมีขาดของความกว้าง 8 เมตร ยาว 15 เมตร ซึ่งจะได้นำเรื่องดังกล่าวเสนอให้กับทาง รมต.ว่าการกระทรวงเกษตรฯ ต่อไป

กาฬสินธุ์ – หมอเตือนอากาศร้อนระวังโรคทางเดินอาหารแนะกินสุกร้อนสะอาด

Best replica watches uk online store for men & women.

In perfectwatches1.sr you can not only buy high-quality and cheap replica watches,you can also buy premium versions of Rolex, hubot, ap and other super replica watches made from original Swiss movements!

Another site I have to mention here is replicaomega.io. They sell really good replicas of luxury watches and for reasonable prices. What actually impressed me the most about this site is that their omega replica is so good that even its power reserve is exactly what it is on the original what – a whooping 72 hours. That’s really hard to pull off, and even established manufacturers that sell their watches for hundreds and thousands of dollars can’t achieve that.

โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ห่วงใยประชาชนเตือนหน้าร้อนอุณหภูมิสูงระวังโรคทางเดินอาหารและน้ำ โดยเฉพาะอาหารเป็นพิษ ด้านผอ.รพ.กาฬสินธุ์แนะวิธีดูแลสุขภาพช่วงอากาศร้อนจัด ปฏิบัติตามสุขอนามัยที่เหมาะสม “กินสุก ร้อน สะอาด” ป้องกันการเจ็บป่วยที่อาจเกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อน

วันที่ 22 เมษายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพอากาศใน จ.กาฬสินธุ์ ยังคงร้อนมานานหลายสัปดาห์ โดยเฉพาะช่วงกลางวันนั้น มีอากาศร้อนจัดตลอดทั้งวัน อุณหภูมิเฉลี่ยสูงถึง 39- 41 องศา ซึ่งส่งผลกระทบกับการดำรงชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะการเจ็บป่วยที่มาจากโรคในช่วงหน้าร้อน ทั้งนี้ทางด้านนพ.สุรสิทธิ์ จิตรพิทักษ์เลิศ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ได้ออกมาเตือนประชาชนช่วงหน้าร้อนนี้ ให้เฝ้าระวังการเกิดโรคและภัยสุขภาพต่างๆ โดยเฉพาะโรคติดต่อทางเดินอาหารและน้ำ พร้อมแนะนำวิธีดูแลสุขภาพในช่วงอากาศร้อนจัด

นพ.สุรสิทธิ์ จิตรพิทักษ์เลิศ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในช่วงฤดูร้อนของประเทศไทย ซึ่งเริ่มตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงกลางเดือนพฤษภาคม ทั้งนี้อากาศที่ร้อนและแห้งแล้งเหมาะแก่การเจริญเติบโตของเชื้อโรคหลายชนิด โดยเฉพาะเชื้อโรคที่ปนเปื้อนในน้ำ และอาหาร ส่งผลให้อาหารบูดเสียได้ง่าย อาจก่อให้เกิดโรคติดต่อทางเดินอาหารและน้ำ เช่น โรคอาหารเป็นพิษ, โรคอหิวาตกโรค, โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน, โรคไวรัสตับอักเสบ เอ และ ไข้ไทฟอยด์ หรือไข้รากสาดน้อย

โดยสาเหตุเกิดจากการรับประทานอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อก่อโรค ซึ่งผู้ป่วยจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง อาจมีถ่ายเหลว หรือท้องเสีย จนทำให้ขาดน้ำอย่างรุนแรงจนช็อค และอาจเสียชีวิตได้ สำหรับแนวทางการป้องกันโรคทางเดินอาหารและน้ำ จะต้อง“กินสุก ร้อน สะอาด” คือ กินอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ ใช้ช้อนกลางตักกับข้าวใส่จาน และล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำและสบู่ทุกครั้งก่อนประกอบอาหาร รับประทานอาหาร และหลังเข้าห้องน้ำ นอกจากนี้ต้องดื่มน้ำที่สะอาด น้ำต้มสุก หรือน้ำที่บรรจุในขวดที่มีฝาปิดสนิท

อย่างไรก็ตามในช่วงที่อากาศร้อน ควรหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดจัด สวมใส่เสื้อผ้ามีสีอ่อนไม่หนา ระบายความร้อนได้ดี สวมแว่น กันแดด สวมหมวก กางร่ม ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว แต่หากจำเป็นต้องทำงานกลางแจ้งหรือกลางแดด ไม่ปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำจนรู้สึกกระหายหรือริมฝีปากแห้ง ที่สำคัญให้หลีกเลี่ยงการดื่ม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะยิ่งทำให้เสี่ยงต่อการเป็น”ฮีทสโตรก” หรือ “โรคลมแดด”

หนองคาย ฉลองครบรอบ 30 ปี สะพานมิตรภาพไทย-ลาว ร่วมทำบุญตักบาตรสองแผ่นดิน

replica rolex

Offer fake rolex datejust replica watch with high quality from Chinese,best quality replica rolex datejust fake swiss made watch.

Perfect Swiss replica wacthes/ replica cartier uk cheap sales.

If you’re interested in buying Tag Heuer Replica Watches, tagheuerreplica.com has you covered.

ไทย ลาวและออสเตรเลีย ร่วมทำบุญตักบาตรสองแผ่นดิน และร่วมเปิดงานฉลองย้อนรอย สะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 1 บนสะพานมิตรภาพไทย – ลาว ฯ เพื่อฉลองครบรอบ 30 ปี มีประชาชนชาวไทยและลาวร่วมจำนวนมาก

วันที่ 21 เมษายน 2567 เวลา 05.00 น. บริเวณบนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย นายสมภพ สมิตะศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย พร้อมด้วย นายอาดสะพังทอง สีพันดอน จ้าครองนครหลวงเวียงจันทน์, ท่านสมสัก วิไลทอน กงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และ ( เอกอัครราชทูตไทย) ประจำ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ร่วมเป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตรสองแผ่นดิน โดยมี พันเอก ณรงค์ วิชญาณวรวุฒิ รองผู้อำนวยการสำนักปฏิบัติภารกิจ รักษาความมั่นคงภายใน จังหวัดมณฑลทหารบกที่ 24, องค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย พร้อมด้วย ส่วนราชการ,หน่วยงานภาคเอกชน, พี่น้องประชาชนฝั่งไทย และ พี่น้องประชาชนฝั่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ร่วมในกิจกรรม ซึ่งได้นิมนต์พระสงฆ์ไทยและลาว จำนวน 62 รูป ออกเดินรับบิณฑบาตรบนสะพานมิตรภาพฯ มีประชาชนชาวไทยและชาวลาวเข้าร่วมทำบุญตักบาตรเป็นจำนวนมาก

สำหรับสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 เริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2534 โดยความร่วมมือระหว่างรัฐบาล ของ 3 ประเทศ คือ ออสเตรเลีย ไทยและ สปป.ลาว ก่อสร้างแล้วเสร็จและมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2537 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.9 , ฯพณฯ หนูฮัก พูมสะหวัน ประธานประเทศแห่ง สปป.ลาวและ ฯพณฯ พอล คีตติง นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียในขณะนั้น เป็นประธานร่วมในพิธีเปิดสะพานฯ และได้เปิดให้ประชาชนได้ใช้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2537 สร้างประโยชน์ให้กับประเทศเพื่อนบ้านทั้งในแง่เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม การคมนาคมและขนส่ง สะพานไม่เพียงแต่เชื่อมโยงพื้นที่ของทั้งสองประเทศ ให้มีความสะดวก รวดเร็วขึ้น แต่ยังเชื่อมโยงสายสัมพันธ์ระหว่างประชาชนชาวไทยและลาว จึงเปรียบเสมือนสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพและความร่วมมือระหว่างออสเตรเลีย ไทยและลาว

ชัยภูมิ – รองผู้ว่าพ่อเมือง รับมอบทางม้าลายส่งต่อให้โรงเรียนในพื้นที่ บำเหน็จณรงค์ หวังลดอุบัติเหตุทางถนน

รองผู้ว่าฯรับมอบทางม้าลายเพื่อส่งมอบให้กับ รร.ในพื้นที่ บำเหน็จณรงค์ได้ใช้ในการช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนน

เมื่อวันที่ 13 พ.ย. 66 ที่บริเวณถนนหน้าโรงเรียนชุมชนบ้านเพชร (วันครู๒๕๐๐) นายไสมบัติ ไตรศักดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ และ นายธงชัย โอฬารพัฒนะชัย ปลัดจังหวัดชัยภูมิ ได้เดินทางมาเป็นประธานรับมอบทางม้าลายจาก นายประพันธ์ สู่หนองบัว นายอำเภอบำเหน็จณรงค์ หลังได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชน ที่ให้สนับสนุนเพื่อช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนนและให้นักเรียนในพื้นที่ได้ข้ามถนนอย่างปลอดภัย ถูกกฏจราจร และลดอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต

นายประพันธ์ สู่หนองบัว นายอำเภอบำเหน็จณรงค์ เผยว่า อำเภอบำเหน็จณรงค์ เป็นอีกหนึ่งอำเภอที่มีการใช้รถ ทั้งเล็กและใหญ่ สัญจรไปมาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะรถเพื่อการเกษตร อีกทั้งถนนหลายสายหลายจุดมีเส้นจราจร ที่ลบเลือนชำรุดเสียหาย โดยเฉพาะ บริเวณหน้าสถานศึกษาที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ โดยเฉพาะเด็ก ๆ นักเรียน ดังนั้นทางอำเภอบำเหน็จณรงค์ จึงได้เล็งเหตุความสำคัญในจุดนี้ จึงได้มีการจัดโครงการถนนปลอดภัยลดอุบัติเหตุบนท้องถนนขึ้นมา โดยได้ขอรับความอนุเคราะห์ สนับสนุนจากภาครัฐ, บ.วิริยะประกันภัย(เจ้หมวยคำปิง), กก.ตร. และเอกชน เพื่อช่วยสนับสนุน งบประมาณ รวมถึงอุปกรณ์ในการดำเนินการในการพัฒนาสร้างทางม้าลายในครั้งนี้ เป็นการช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ให้เด็กๆนักเรียนในพื้นที่ได้ข้ามถนนอย่างปลอดภัย ถูกกฏจราจร และลดอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นกับคนทั่วไปในอนาคต

โดยทางอำเภอได้มอบให้ทาง สถานีตำรวจภูธรบำเหน็จณรงค์ สำรวจเส้นทางที่ใช้สัญจรไปมาของนักเรียน และประชาชนในเขตพื้นที่รับผิดชอบพบว่าบริเวณหน้าโรงเรียนในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ไม่มีทางม้าลายบนผิวถนน จึงมีการทำทางม้าลายสำหรับคนข้ามถนน จำนวน 5 จุด คือโรงเรียนในพื้นที่ 3 จุด และในเขตชุมชนอีก 2 จุด เพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นกับประชาชนและนักเรียนผู้ใชรถใช้ถนน โดยได้มีการดำเนินการทำเครื่องหมายจราจร (Trafic paint) ลูกแก้ว (Glass Bead) วัสดุรองพื้น (Tack Coat or primer) ตามมาตรฐานทางม้าลายของกรมทางหลวง พร้อมกันนี้ทางอำเภอบำเหน็จณรงค์ ก็จะได้มีการดำเนินการติดตั้งไฟสัญญาณจราจร และเส้นขอบถนน ตามจุดต่างๆเพิ่มอีกในอนาคตต่อไป

วิรัตน์ ดวงแก้ว ผู้สื่อข่าว จ.ชัยภูมิ

หนองคาย- ประมงนำพันธุ์สัตว์น้ำ 269,620 ตัว ปล่อยลงหนองปลาแดก ในวันประมงแห่งชาติ

ประมงจังหวัดหนองคาย นำพันธุ์สัตว์น้ำ 269,620 ตัว ปล่อยลงหนองปลาแดกแหล่งน้ำสาธารณะ ในวันประมงแห่งชาติ ให้เป็นแหล่งอาหารชุมชน

วันที่ 21 กันยายน 2566 (เวลา 09.30 น.) ที่ บริเวณหนองปลาแดก บ้านนาชุมช้าง หมู่ที่ 5 ต.รัตนวาปี อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย นายชาญชัย คงทัน รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำในวันประมงแห่งชาติ ประจำปี 2566 โดยมีหน่วยงานในสังกัดกรมประมงในจังหวัดหนองคาย ร่วมกับ อำเภอรัตนวาปี และองค์การบริหารส่วนตำบลรัตนวาปี จัดกิจกรรมขึ้น หนองปลาแดก เป็นแหล่งน้ำสาธารณะขนาดใหญ่มีเนื้อที่ทั้งหมด 37 ไร่ ลึกประมาณ 4-5 เมตร อยู่ในพื้นที่ บ.นาชุมช้าง ต.รัตนวาปี อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย

ด้วย มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2549 กำหนดให้ วันที่ 21 กันยายน ของทุกปี เป็นวันประมงแห่งชาติ เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงคุณค่าของทรัพยากรสัตว์น้ำ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของชุมชนในการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำ มีจิตสำนึก มีความรัก สามัคคี ปรองดองและร่วมมือกันดูแลรักษาแหล่งน้ำให้สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืน ให้เป็นแหล่งอาหารชุมชน ซึ่งกรมประมงขอความร่วมมือจากประชาชนงดจับสัตว์น้ำทุกชนิดในวันที่ 21 กันยายนของทุกปี

การปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนพันธุ์ปลาจาก ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดหนองคาย จำนวน 200,210 ตัว ประกอบด้วย ปลาตะเพียนขาว ปลายี่สกไทย ปลายี่สกเทศ ปลาสวาย และปลาบึก โดยมีนายสุทัศน์ เผือกจีน ประมงจังหวัดหนองคาย พร้อมคณะ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดหนองคาย ผู้อำนวยการสำนักงานธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดหนองคาย นายอำเภอรัตนวาปี ผู้ปกครองนิคมสร้างตนเองโพนพิสัย เกษตรอำเภอรัตนวาปี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลรัตนวาปี สภ.รัตนวาปี สน.รัตนวาปี กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน คณะครู นักเรียนโรงเรียนบ้านนาชุมช้าง ตลอดจนชาวบ้านในตำบลรัตนวาปี เข้าร่วมกิจกรรม

นายพันธลภ แสงทอง-โภควินทร์ นันทรจันทร์ จังหวัดหนองคาย

หนองบัวลำภู – นายอำเภอโนนสัง ลงนาม MOU อำเภอโนนสังนำร่อง (Y-SDN) หยุดนักดื่มหน้าใหม่

นายอำเภอโนนสัง ลงนาม MOU อำเภอโนนสังนำร่อง (Y-SDN) ร่วมกับ 6 ภาคีเครือข่ายภาครัฐ อปท.หนุนการขับเคลื่อนเยาวชนงดเหล้าลดปัจจัยเสี่ยง ภายหลังสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี พ.ศ.2563 ตัวเลขการดื่มของประชากรวัยรุ่น สูงเป็นอันดับที่ 2 ของประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอโนนสัง จังหวัดหนองบัวลำภู นายจักรพันธุ์ ทองอ่ำ นายอำเภอโนนสัง เป็นประธานในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ(mou)กับสำนักงานสาธารณสุขอำเภอโนนสัง และ 5 ภาคีเครือข่าย อปท.ได้แก่ ทต.โนนสัง ทต.หนองเรือ ทต.กุดดู่ อบต.กุดดู่ และ อบต.โนนเมือง เพื่อลดปัญหาการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในกลุ่มเยาวชน โดยศูนย์ประสานงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าจังหวัดหนองบัวลำภู เลือกพื้นที่อำเภอโนนสังเป็นอำเภอนำร่อง เนื่องด้วยข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติปี พ.ศ.2563 จากตัวเลขการดื่มของประชากรวัยรุ่น สูงเป็นอันดับที่ 2ของประเทศ

โดยมี นางวิริยา แก่นปัดชา หัวหน้าศูนย์ประสานงานเครือข่าย องค์กรงดเหล้าจังหวัดหนองบัวลำภู พร้อม น.ส.ประนันทกิจ เกณสาคู ผู้ประสานงานโครงการป้องกัน นักดื่มหน้าใหม่อำเภอโนนสัง และคณะทำงานบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานเด็กและเยาวชนใน อ.โนนสัง เพื่อแก้ปัญหานักดื่มหน้าใหม่ ท่ามกลางในที่ประชุมประจำเดือน กำนันทุกตำบล ผู้ใหญ่บ้าน ผช.ผญบ.ของอำเภอโนนสัง ร่วมเป็นสักขีพยาน และในขณะเดียวกัน นายสยาม หัตถสงเคราะห์ ส.ส.หนองบัวลำภู เขต 1 พรรคเพื่อไทย ได้เดินทางมาพบปะกำนัน ผญบ.พร้อมรับฟังปัญหาเพื่อนำไปสู่การแก้ไขในระดับประเทศต่อไป
นางสาวประนันทกิจฯ กล่าวว่า กิจกรรมหลักได้แก่ การพัฒนาศักยภาพเยาวชน งานบุญประเพณีปลอด เหล้า กิจกรรมนวัตกรรมปลอดเหล้าของกลุ่มเยาวชน กิจกรรมปลูกฝังจิตสำนึกสร้างพลังบวกเด็กปฐมวัย ซึ่งใน ระยะที่ 1 คณะทำงานได้ลงพื้นที่เก็บข้อมูลการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 ในพื้นที่อำเภอโนนสัง จำนวน 10 ตำบล ทำการบันทึกข้อมูล วิเคราะห์รายละเอียดและคืนข้อมูลในระดับอำเภอ และได้ดำเนินงานเพื่อสนับสนุนกิจกรรมเด็กและเยาวชนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงได้ดำเนินงานในระยะที่ 2 โดยการ สนับสนุนให้เกิดนโยบายด้านเด็กและเยาวชนเพื่อสกัดนักดื่มหน้าใหม่ อำเภอโนนสัง ร่วมกับ เครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) จ.หนองบัวลำภู และเครือข่ายเยาวชน ลดปัจจัยเสี่ยงอำเภอโนนสัง (Y-SDN)

โดยสาระสำคัญในวันนี้ ได้จัดพิธีลงนาม “ บันทึกข้อตกลงสนับสนุนงานเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง และป้องกันนักดื่มหน้าใหม่อำเภอโนนสัง ” จังหวัดหนองบัวลำภู ร่วมกับ นายอำเภอโนนสัง สาธารณสุขอำเภอโนนสัง นายกเทศมนตรีตำบลโนนสัง นายกเทศมนตรีตำบลกุดดู่ นายกเทศมนตรีตำบลหนองเรือ นายกองค์การบริการส่วนตำบลโนนเมือง และนายก องค์การบริหารส่วนตำบลกุดดู่ ขึ้นเพื่อร่วมขับเคลื่อนและสนับสนุนการดำเนินงานเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์หลักตามข้อตกลง

ในขณะที่นายจักรพันธุ์ ทองอ่ำ นายอำเภอโนนสัง กล่าวว่าจากนี้อำเภอโนนสัง ร่วมกับอีก 6 ภาคคีเครือข่ายจะทำงานร่วมกันบังคับใช้และปฏิบัติตามกฎหมายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตามมาตรา 27 ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใน(1)วัด (3)สถานที่ราชการ (4)สถานศึกษา (7)สวนสาธารณะและ มาตรา 31 ห้ามมิให้ผู้ใดบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใน(1)วัด (3)สถานที่ราชการ (4)สถานศึกษา (7) สวนสาธารณะ รวมทั้งบังคับใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 อย่างเคร่งครัด

นอกจากนั้นสนับสนุนให้เกิดงานบุญประเพณี งานเทศกาลสำคัญปลอดเหล้า อาทิเช่น งานสงกรานต์ งานบุญบั้งไฟ งานลอยกระทง งานกฐิน งานบุญประจำปี พร้อมสนับสนุนกิจกรรมสร้างสรรค์เยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง เพื่อป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ในกลุ่ม เด็กและเยาวชนพื้นที่อำเภอโนนสัง และ สนับสนุนให้เกิดการจัดสภาพแวดล้อมจุดเสี่ยง แหล่งมั่วสุม ให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยป้องกัน ปัจจัยเสี่ยง เพื่อประกาศเป็นนโยบายประจำอำเภอโนนสัง นายอำเภอโนนสัง กล่าวในที่สุด
สุภัชรกานต์ แก้วสิงห์ ภาพและข่าว เพ็ญนภา ทับซ้ายขวา รายงานข่าว จากจังหวัดหนองบัวลำภู

อุดรธานี – กองทัพภาคที่ 2 จัดโครงการถักทอเครือข่ายมวลชนในพื้นที่ กอ.รมน.ภาค 2 รุ่นที่ 1

เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2566 พันเอก จักรพงษ์ โพธิ์นาแค ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 13 เข้าร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดการอบรมโครงการถักทอเครือข่ายมวลชนในพื้นที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กองทัพภาคที่ 2 รุ่นที่ 1 ประจำปี 2566 ในวันที่ 28-29 สิงหาคม 2566 ณ มณฑาทิพย์ ฮอลล์ ศูนย์ประชุมและจัดแสดงสินค้านานาชาติ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี โดยมี พลตรี ยุทธนา มีทิพย์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 24 เป็นประธานในการเปิดการอบรมฯ และมีส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ-ภาคเอกชน นักศึกษาวิชาทหาร และชุดปฏิบัติการด้านกิจการพลเรือนของหน่วยเข้าร่วมการอบรมในครั้งนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการปลูกฝังจิตสำนึกและอุดมการณ์ความรักชาติ ให้กับนักเรียน นักศึกษา ข้าราชการ และประชาชนทั่วไปที่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ให้ได้มีโอกาสเข้ารับการฝึกอบรมเพื่อให้เกิดความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ มีความจงรักภักดี ต่อสถาบันหลักของชาติ รวมถึงเป็นการสร้างเครือข่ายเฝ้าระวังภัยเพื่อความมั่นคงให้กับภาครัฐได้อีกทางหนึ่งด้วย

จากการเข้าร่วมรับการอบรมในครั้งนี้ ทำให้ผู้เข้ารับการอบรมมีความตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญของสถาบันหลักของชาติ รวมถึงมีความภาคภูมิใจในความเป็นไทย และมีจิตสำนึกรักและหวงแหนประเทศชาติมากยิ่งขึ้น

ข้อมูลภาพข่าว   ร.ต.กฤษฎา มณีใส
#กรมทหารราบที่ 13

มุกดาหาร ทหารพัฒนา 24 จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ นำเด็กเข้าชมฐานเรียนรู้

กองบัญชาการกองทัพไทย โดย หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 24 สำนักงานพัฒนาภาค 2 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

พันเอก สันทัศน์ ชำนาญเวช ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 24 สำนักงานพัฒนาภาค 2 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง12 สิงหาคม 2566 โดยมี ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คณะกรรมการสหกรณ์การเกษตรหนองสูง คณะครู นักเรียน โรงเรียนชุมชนบ้านคำชะอี และ โรงเรียนบ้านโนนสว่าง ๑ ร่วมกิจกรรมปล่อยปลา จำนวน 30,091 ตัว ปลูกหญ้าแฝก หญ้าเนเปียร์เยี่ยมชมกิจกรรมในฐานการเรียนรู้ การเลี้ยงโคเนื้อ การเลี้ยงหมูหลุม และกิจกรรมบ้าน 1 ไร่ พอเพียง ภายในศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง 84 พรรษาเทิดไท้มหาราชัน

หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 24 พร้อมทั้ง จัดวิทยากรจิตอาสา 904  บรรยาย เรื่องพระราชกรณียกิจ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชินีพันปีหลวง พระราชอัจฉริยะภาพ และ ศาสตร์พระราชาของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรรวมทั้ง พระราชปณิธาน พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ ได้ทรง สืบสานรักษา ต่อยอดพร้อมทั้งปลูกฝังอุดมการณ์ความรักชาติการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้กับนักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 91 คน ได้น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และนำไปเป็นแนวทางในการดำรงชีวิต ต่อไป

หนองบัวลำภู – นายอำเภอศรีบุญเรือง นำผู้ใหญ่บ้าน ปฎิญาณงดเหล้าในพรรษา

นายอำเภอปิ้งไอเดีย !! ผู้นำต้องกล้าทำเป็นแบบอย่าง ปฎิญาณงดเหล้าเข้าพรรษา

นายอำเภอศรีบุญเรือง นำหัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน ผช.ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่อำเภอศรีบุญเรือง กล่าวคำปฏิญาณตนงดเหล้าเข้าพรรษา สงฆ์รับบิณฑบาตงดเหล้าเข้าพรรษา พร้อมขับเคลื่อนชาวศรีบุญเรือง “รวมใจหิ้วตระกร้าสวมผ้าไทยใส่บาตรวันพระ ตลอดพรรษา”หนุน 1 หมู่บ้าน “งานบุญปลอดเหล้า งานเศร้าปลอดอบายมุข”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู นายเพทาย จรกระโทก นายอำเภอศรีบุญเรือง นำหัวหน้าส่วนราชการในระดับอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน ผช.ผู้ใหญ่บ้านในเขตอำเภอศรีบุญเรือง ร่วม 500 คนนำกล่าวคำปฏิญาณตน งดเหล้าเข้าพรรษา เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ และเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 71 พรรษา( 28 กรกฏาคม 66)

นายเพทาย จรกระโทก นายอำเภอศรีบุญเรือง กล่าวว่าเนื่องจากคณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้ วันเข้าพรรษา เป็นวันงดดื่มสุราแห่งชาติ เพื่อส่งเสริมธรรมเนียมปฏิบัติดีงามของชาวพุทธช่วงเข้าพรรษาตลอด 3 เดือน พุทธศาสนิกชนควรจะมีการตั้งสัจจะอธิษฐาน ลดละเลิกเหล้าเบียร์ ในส่วนของผู้นำทุกองค์กรควรปฏิบัติเป็นแบบอย่าง และเป็นการปฏิบัติบูชาไปในตัวด้วย จึงได้รณรงค์และเชิญชวนให้หัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน ผช.ผู้ใหญ่บ้านในเขตอำเภอศรีบุญเรือง ตั้งสัตยาบันที่จะงดเหล้าช่วงเข้าพรรษา 3 เดือนเพื่อประกาศตนเองเป็นคนหัวใจหิน และหากงดได้ 3 พรรษา(3ปี)ขึ้นไป ก็จะได้รับเข็มเชิดชูเกียรติพร้อมเกียรติบัตรคนหัวใจเพชร

นายเทพายฯนายอำเภอศรีบุญเรือง กล่าวต่อว่า ในส่วนของอำเภอต้องขอกราบขอบคุณ พระอุดมคุณาภรณ์ รองเจ้าคณะจังหวัดหนองบัวลำภู พระครูปริยัติโชติการ เจ้าคณะอำเภอศรีบุญเรือง ตลอดเจ้าคณะตำบล เจ้าอาวาสทุกวัดในพื้นที่ เครือข่ายองค์กรงดเหล้าจังหวัดหนองบัวลำภู สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และ สภาวัฒนธรรมอำเภอศรีบุญเรือง ที่เป็นผู้สนับสนุนหลักในการขับเคลื่อนและให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี หากผู้นำในทุกท้องที่ตลอดจนประชาชนที่ตั้งใจ เข้าร่วมกิจกรรมงดเหล้าเข้าพรรษาในปีนี้ ถือได้ว่าเป็นความตั้งใจที่จะทำความดีในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา และ ออกพรรษาได้ก็จะเกิดความประทับใจ และมีกำลังใจในการทำความดี ตลอดจนเป็นต้นแบบตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กเยาวชนได้เป็นอย่างดี

นายอำเภอศรีบุญเรือง กล่าวทิ้งท้ายในคราวเดียวกันนี้ว่า ในพรรษานี้อำเภอศรีบุญเรือง ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่อำเภอศรีบุญเรือง นำพุทธศาสนิกชนชาวศรีบุญเรือง รวมใจหิ้วตระกร้าสวมผ้าไทยใส่บาตรวันพระ ตลอดพรรษา เพื่อสร้างอัตลักษณ์ในการส่งเสริมภูมิปัญญาของชุมชน โดยเฉพาะตะกร้า กติ๊บข้าว รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่เป็นของใช้จากต้นคร้า ที่มีชื่อเสียงและเป็นสินค้าโอท๊อปของอำเภอศรีบุญเรือง และของจังหวัดหนองบัวลำภู ในขณะที่จังหวัดหนองบัวลำภู มีนโยบายเชิญชวน ส่งเสริมและสนับสนุนการใช้และสวมใส่ผ้าไทย โดยการรณรงค์เชิญชวนคนไทยสวมใส่ผ้าไทยอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 วัน ตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการพัฒนาชุมชน นำเสนอ เพื่อส่งเสริมให้ข้าราชการ ประชาชน แต่งกายด้วยผ้าไทยตามความเหมาะสมของท้องถิ่น “เพิ่มขึ้น” หรือ “อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 วัน”

เพื่อเป็นการสร้างมิติใหม่ร่วมกันและให้เกิดสังคมแห่งสันติสุข ชุมชนเข้มแข็ง พร้อมขับเคลื่อนนโยบาย 4 ดี “ศรีบุญเรืองเมืองคนดี”ได้แก่จิตใจดี สุขภาพดี สิ่งแวดล้อมและสังคมดี และเศรษฐกิจดี อำเภอศรีบุญเรืองจึงร่วมมือกับ เจ้าคณะอำเภอศรีบุญเรือง และเจ้าอาวาสวัดทุกวัดใน 12 ตำบล 158 หมู่บ้านให้เกิดความชัดเจนเพื่อให้คุณภาพชีวิตของคนในหมู่บ้าน ชุมชน มั่นคงและยั่งยืน จึงกำหนดให้แต่ละหมู่บ้านต้องมี 1 บุญประเพณีหรือ 1 งานบุญปลอดเหล้า ภายใต้หลักการ “งานบุญปลอดเหล้า งานเศร้าปลอดอบายมุข”โดยให้ผู้นำทุกหมู่บ้านร่วมกับคณะสงฆ์จัดให้มีการประชาคมกำหนดว่าประเพณี 12 เดือน ในฮีตสิบสองคลองสิบสี่ งานมงคล หรือ งานอวมงคลใด เป็นงานบุญปลอดเหล้า 100 % 4 ภายในเดือนกันยายน ศกนี้

สุภัชรกานต์ แก้วสิงห์ ภาพและข่าว เพ็ญนภา ทับซ้ายขวา รายงานจากจังหวัดหนองบัวลำภู

ที่มา : https://www.esandailyonline.com/

จังหวัดเลย จัดกิจกรรมคัดกรองมะเร็งเต้านม เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่ห้องประชุมศาลาประชาคมอำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย นายทวี เสริมภักดีกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เป็นประธานเปิดโครงการคัดกรองมะเร็งเต้านมโดยเครื่องเอ็กซเรย์เต้านม (Memmogram) ในสตรีกลุ่มเสี่ยงและด้อยโอกาส 4 หน่วย 4 ภาค ทั่วประเทศ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในโอกาสเจริญพระชนมพรรษา ครบ 70 พรรษา 28 กรกฎาคม 2565 ในพื้นที่อำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย ที่ห้องประชุมศาลาประชาคมอำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย โดยนายแพทย์ชาญชัย บุญอยู่ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเลย ร่วมกับ ดร.นพ.อิทธิพล สูงแข็ง อดีตรองอธิบดี กรมสุขภาพจิต มูลนิธิกาญจนบารมี นำเจ้าหน้าที่จัดกิจกรรมขึ้น เพื่อสร้างความตระหนักถึงการตรวจเต้านมด้วยตนเองอย่างถูกต้อง สามารถค้นหามะเร็งในระยะแรกเริ่มได้ ลดความรุนแรงและอัตราตายด้วยมะเร็งโรคมะเร็งเต้านม อีกทั้ง เป็นการประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มผู้นำสตรี ได้ตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็งเต้านม เป็นกระบอกเสียงประชาสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจถึงความสำคัญของการตรวจเต้านมด้วยตนเองแก่สตรีทุกคน

ทั้งนี้ จังหวัดเลย มีแนวโน้มอัตราป่วยด้วยโรคมะเร็งเต้านมเพิ่มขึ้นทุกปี และสถานการณ์ในปี 2566 พบว่าอัตราป่วยด้วยมะเร็งเต้านมป่วยเป็นอัตราสูงสุด มีผู้ป่วยรายใหม่ จำนวน 106 ราย และพบในระยะแรก ร้อยละ 67 ซึ่งกิจกรรมในครั้งนี้ จะช่วยค้นหาผู้ป่วยให้ได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว เพื่อลดอัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งเต้านม จึงเชิญชวนสตรีกลุ่มเสี่ยงและด้อยโอกาส เข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม โดยเครื่องเอ็กซ์เรย์เต้านมเคลื่อนที่ เปิดให้บริการ 2 วัน ในวันที่ 17 และ 18 กรกฎาคม 2566 ณ ห้องประชุมศาลาประชาคมอำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย

ดำรงค์ รักษ์จรรยาวงศ์ / จ.เลย