กอร.ศบภ.ทภ.๔ รายงานการปฏิบัติประจำวัน ๑๑ ก.ค. ๖๑ มีดังนี้

กอร.ศบภ.ทภ.๔

การปฏิบัติประจำวัน ๑๑ ก.ค. ๖๑ มีดังนี้

– มทบ.๔๑ จัดตั้ง กอร.ศบภ.ทภ.๔ ในการอำนวยความสะดวกติดต่อประสานงาน        จำนวน  ๕ นาย และจัดเจ้าหน้าที่ สห. จำนวน  ๑๕ นาย จัดระเบียบการจราจรและอำนวยความสะดวก ณ ท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง 

– ชุดแพทย์เผชิญเหตุโรงพยาบาลค่ายวิภาวดีรังสิต มทบ.๔๕ ร่วมกับ ชุดแพทย์เผชิญเหตุโรงพยาบาลค่ายวชิราวุธ รวม ๑๘ นาย ปฏิบัติภารกิจชุดปฐมพยาบาลดูแลเจ้าหน้าที่และผู้สื่อข่าวที่ปฏิบัติภารกิจ โดยให้บริการตรวจโรค ปฐมพยาบาลเบื้องต้น มีผู้เข้ารับบริการ จำนวน ๑๑ ราย

– มทบ.๔๓ จัดรถครัวสนามประกอบอาหารจัดเลี้ยงให้แก่เจ้าหน้าที่ที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย และผู้สื่อข่าว จำนวน ๓ มื้อ รวมเป็น ๙๕๐ กล่อง 

– ร.๑๕ พัน.๑ จัดกำลังพลสนับสนุน กอร.ศบภ.ทภ.๔  จำนวน  ๑๒  นาย ในการอำนวยความสะดวกการปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัย  

– พล.ร.๕ จัดกำลังพลสนับสนุน กอร.ศบภ.ทภ.๔  จำนวน  ๒๔  นาย ในการอำนวยความสะดวกการปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัย

– โดยมี พล.ต.อาคม พงศ์พรหม ผบ.มทบ.๔๑/ผอ.ศบภ.มทบ.๔๑ ให้กำลังใจและกำกับดูแลการปฏิบัติภารกิจของ จนท. อย่างใกล้ชิด และเมื่อ เวลา ๑๗๐๐ พล.ต.อาคม พงศ์พรหม ผบ.มทบ.๔๑/ผอ.ศบภ.มทบ.๔๑ ร่วมแถลงข่าวถึงความคืบหน้าในการค้นหาผู้สูญหาย ณ ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยเรือล่ม ท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง ต่อมาเวลา ๑๙๐๐ พล.ต.อาคม พงศ์พรหม ผบ.มทบ.๔๑/ผอ.ศบภ.มทบ.๔๑ ร่วมพิธีสวดอภิธรรมศพที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ ณ วัดโฆษิตวิหาร

– การแถลงข่าว เมื่อ ๑๐๐๐ อัพเดทตัวเลขผู้ประสบภัยเหตุเรือฟินิกซ์ล่ม มีผู้รอดชีวิตจำนวน ๔๒ คน เสียชีวิต ๔๕ คน สูญหาย ๒ คน ขณะนี้ยอดผู้รอดชีวิต ๔๒ คน  ผู้เสียชีวิตจำนวน ๔๕ คน พิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลเสร็จสิ้นแล้ว ๔๓ คน สูญหาย ๒ คน ฌาปนกิจศพแล้ว

จำนวน ๕ ศพ นำกลับไปประกอบพิธี ณ ประเทศจีน ๒ ศพ โดยในวันนี้จะมีการฌาปนกิจศพเพิ่มอีก ๗ ศพ ทั้งนี้เรื่องการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา จว.ภ.ก. มีความพร้อมในการอำนวยความสะดวกซึ่งจะต้องขึ้นอยู่กับความพึงพอใจและความต้องการของญาติผู้เสียชีวิต และในช่วงเช้าของวันนี้ เมื่อ ๐๘๐๐ มีการทำพิธีเรียกขวัญสวดส่งวิญญาณที่ท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง ส่วนกรณีเกิดเหตุขณะนี้มีผู้สูญหายจำนวน ๒ คนหนึ่งในนั้นมองเห็นด้วยตาว่าติดอยู่ใต้ซากเรือ ส่วนอีก ๑ ราย

จะใช้แบบจำลองการเคลื่อนตัวของผิวน้ำซึ่งคาดว่าจะอยู่บริเวณเกาะพีพี จว.ก.บ., จว.พ.ง. และ จว.ส.ต. ในส่วน ทภ.๔ โดย มทบ.๔๑ และ ๔๕ ได้สนับสนุนการค้นหาอย่างต่อเนื่องโดยใช้เฮลิคอปเตอร์ ๒ ลำ ในการค้นหาผู้สูญหาย นอกจากนี้สั่งการให้กำลังพลเดินเท้าปูพรมบริเวณชายหาดที่คาดว่าน่าจะหายไปติดใน จว.ก.บ. และ จว.พ.ง. ซึ่งการค้นหาอย่างคงต้องดำเนินการต่อไป ส่วนด้านการดำเนินการทางคดีมีการบูรณาการกำลังร่วมกับหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องจากส่วนกลาง ตรวจสอบบริษัทเรือทั้งสอง ค้นหาวัตถุพยาน เอกสารเพื่อหาข้อเท็จจริงว่าบริษัททั้งสอง มีการดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ซึ่งเป็นความต้องการของรัฐบาลไทยและรัฐบาลจีนเรื่องของการหาสาเหตุที่แน่จริงว่าเหตุการณ์สูญเสียดังกล่าวเกิดจากสภาพอากาศหรือไม่ อย่างไรก็ตามผู้ใดที่มีส่วนเกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นเอกชนหรือเจ้าหน้าที่รัฐจะต้องดำเนินคดีอย่างแน่นอน ทั้งนี้การกระทำดังกล่าวต้องเป็นไปอย่างรอบคอบ

ทางด้านสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ ๓ ได้รับมอบหมายให้มากำกับดูแล ในส่วนที่กรมเจ้าท่ามีความรับผิดชอบ คาดว่า ๒ คน ที่สูญหายอาจจะอยู่ใต้เรือ จึงจำเป็นจะต้องพลิกเรือเพื่อตรวจสอบให้แน่ชัด ซึ่งต้องใช้ความระมัดระวังเพื่อไม่ให้เรือเสียหาย ต้องใช้เจ้าหน้าที่ ที่มีความเชี่ยวชาญ เรื่องการกู้เรือ ในการกระทำดังกล่าวเนื่องจากจุดดังกล่าวมีความลึก เกือบ ๔๕ เมตร โดยการกู้เรือนั้นวางแผนจะใช้เครน ๔๐๐ ตัน ในการทำเรือให้ตั้งตรง แล้วสูบน้ำออก การกระทำดังกล่าวจะไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้าไปยุ่งนอกจากเจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นซึ่งขณะนี้ อุปกรณ์ในการกู้เรือยังเดินทางมาไม่ถึง ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาประมาณ ๑๐ วัน ๑๕ วันสามารถกู้เรือได้แต่ต้องขึ้นอยู่ตามสภาพอากาศ

ผวจ.ภ.ก. กล่าวทิ้งท้ายว่า การปฏิบัติการทั้งหมดเริ่มต้นเมื่อช่วงเย็นของวันที่ ๕ ก.ค. ๖๑ หลังเกิดเหตุการณ์ได้สั่งการให้จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยเรือล่ม จว.ภ.ก. ทันที โดยมีเอกชน หน่วยงานราชการเข้ามาช่วยอย่างต่อเนื่องอย่างไรก็ตามขอขอบคุณ เรือประมง เรือประมงพาณิชย์ ที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยไว้ได้ทัน ซึ่งจุดที่เกิดเหตุนั้นขณะเกิดเหตุเรือเล็กไม่สามารถเข้าถึงได้ นอกจากนี้ขอขอบคุณ แพปลาพิชัย และแพปลาพิบูลที่อนุเคราะห์สถานที่ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าใช้พื้นที่ในการลำเลียงผู้ประสบภัยไปโรงพยาบาล รวมไปถึงขอขอบคุณอาสาสมัครดำน้ำ ซึ่งได้เข้ามาช่วยบูรณาการ การค้นหากับกองทัพเรือไทย ขอบคุณทุกหน่วยงานหลังจากนี้ จว.ภ.ก. จะจัดมอบโล่แทนคำขอบคุณ นอกจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยแล้วต้องขอขอบคุณรัฐบาลจีน สถานกงสุล เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยที่ได้ส่งชุดกู้ภัยใต้น้ำ มาร่วมภารกิจในครั้งนี้ด้วย อย่างไรก็ตามการค้นหายังคงไม่หยุดต้องมีการค้นหาอย่างต่อเนื่องหากมีการหยุดค้นหาทางรัฐบาลไทยและรัฐบาลจีน ต้องมีความยินยอมร่วมกัน

– การแถลงข่าว เมื่อเวลา ๑๗๐๐ เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการค้นหาผู้สูญหายว่า เมื่อเวลา ๑๔๐๐ น ที่ผ่านมาได้พบศพ จำนวน ๑ ศพ เป็นเพศชายใกล้กับเกาะพีพีกำลังลำเลียงศพขึ้นมาจากการตรวจเช็คสภาพศพพบว่าเป็นเพศชายซึ่งในกระเป๋ามีเงินหยวนของจีน บริเวณใกล้เคียงพบเสื้อชูชีพซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์เรือฟีนิกซ์ล่ม อย่างไรก็ตามจะต้องทำการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล จึงสรุปจำนวนผู้ประสบภัยเรือฟีนิกซ์ล่มได้ว่า จำนวนผู้ประสบภัยทั้งหมด ๘๙ คน รอดชีวิต ๔๒ คน เสียชีวิต ๒๖ คน สูญหาย ๑ คน (ติดอยู่ใต้ซากเรือ) จาก จำนวน ๔๖ ศพ สามารถพิสูจน์อัตลักษณ์บุคลได้แล้ว ๔๓ คน อีก ๒ คนกำลังรอ DNA ส่วนอีก ๑ ศพกำลังลำเลียงไปโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ทรภ.๓ กล่าวว่าการดำเนินการค้นหาศพได้ใช้แบบจำลองจากกรมอุทกศาสตร์กองทัพเรือซึ่งสามารถติดตามได้จากทิศทางของน้ำและค่อนข้างที่จะมั่นใจว่าร่างผู้เสียชีวิตรายนี้เป็นร่างที่เกิดอุบัติเหตุจากเรือฟีนิกซ์ สำหรับร่างผู้เสียชีวิตที่โดนเรือทัพอยู่นั้น วันนี้กองทัพเรือไทยร่วมกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยจากจีนลงไปตรวจสอบสภาพเรือแล้วและได้ทำการผูกเชือกนำ แต่สภาพอากาศแปรปรวนไม่สามารถกระทำการได้ เลยตกลงยุติการปฎิบัติดังกล่าว ซึ่งศพที่ติดอยู่ใต้ซากเรือนั้นเป็นเพศชาย ใส่กางเกงยีนส์สามส่วน สภาพร่างค่อนข้างที่จะสมบูรณ์ ๙๐ เปอร์เซ็นต์

– สรุปการค้นหาผู้ประสบภัยประจำวัน

  – ผู้ประสบภัย ๑๓๓ คน 

  – ช่วยเหลือได้แล้ว ๘๖ คน 

  – เสียชีวิต ๔๖ คน  (๔๓ คน ได้รับการตรวจอัตลักษณ์แล้ว และยังรอตรวจอัตลักษณ์ยืนยันอีก ๓ คน )

  – สูญหาย ๑ คน (ติดอยู่ใต้ซากเรือ)  รายละเอียดตามภาพที่ส่ง การปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *