ตรวจรอยกระสุนขณะเข้าปะทะตามต้นยางพารากว่า10 จุด แม่ผู้ต้องหาวอนตำรวจแจ้งก่อนหากเจอ ขอเจรจาเอง เชื่อลูกยังบริสุทธิ์ ที่ผ่านมาถูกเจ้าหน้าที่กระทำ เร่งแกะรอยไล่ล่า นุกระนวน
จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.กระนวน จ.ขอนแก่น ออกหาข่าวยาเสพติด พบชายต้องสงสัย ทราบชื่อภายหลังว่านายสกล ภูโอบ หรือนุ ทำการยิงต่อสู้ขณะเข้าไปตรวจสอบ กระสุนถูก ร.ต.ต.นิเรศ นาคศรี รอง สว.สส. ที่บริเวณท้องด้านซ้าย ได้รับบาดเจ็บ ส่วนนายนุ ได้ทำการยิงต่อสู้เพื่อเปิดทางหลบหนีภายในป่าสวนยางพาราบ้านโคกล่าม ต.ห้วยยาง อ.กระนวน เมื่อวันที่ 29 ส.ค.65 ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
คืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 30 ส.ค. 65 พ.ต.อ.ธนาวัชร ดีบุญมี ณ ชุมแพ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น ในฐานะโฆษกตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่าขณะนี้อาการ ร.ต.ต.นิเรศ นาคศรี แพทย์ รพ.ศรีนครินทร์ ได้ผ่าตัดเอากระสุนขนาด .22 ออกจากภายในท้องและให้นอนพักฟื้นในห้อง ICU พร้อมห้ามเข้าเยี่ยม โดยจัดแพทย์ให้ดูแลอาการอย่างใกล้ชิด ในส่วนของการติดตามตัวนายสกล ภูโอบ หรือ นุ กระนวน เมื่อช่วงเช้าตรู่ ตำรวจได้มีการเข้าตรวจค้นบ้านพัก แต่ยังไม่พบตัวและอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งขณะนี้กำลังกระจายกำลังตำรวจเพื่อติดตามหาข่าวว่า นายนุ กระนวน หลบหนีไปที่ใด และยังไม่สามารถระบุว่าหลบหนีออกนอกพื้นที่แล้ว
ซึ่งทาง พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น ได้กำชับให้ตำรวจชุดจับกุมได้ใช้ความระมัดระวัง เพราะเนื่องจากนายนุ กระนวน ยังคงมีอาวุธปืนติดตัวไปด้วย ซึ่งหากพบว่ามีการขัดขืนการจับกุมและใช้อาวุธทำร้ายเจ้าหน้าที่อีก จะใช้มาตรกรขั้นเด็ดขาดทันทีเพราะเนื่องจากเป็นบุคคลอันตราย ซึ่งนายนุ กระนวน พบประวัติเคยถูกจับในคดีครอบครองยาบ้า และข้อหาเสพฯมาแล้ว ล่าสุดพ้นโทษคดียาเสพติดมาได้ไม่นาน ก่อนที่จะมาก่อเหตุยิงตำรวจในครั้ง ส่วนรถยนต์ของกลางจากการตรวจสอบรถ ยังไม่พบสิ่งสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังจุดปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและคนร้ายคือนายนุ พบว่าบริเวณดังกล่าวอยู่ทางด้านทิศเหนือของหมู่บ้าน เส้นทางจะไปน้ำตกป๋าหลวง เป็นสวนยางพาราที่พร้อมกรีดจำนวนประมาณ 5 ไร่ มีต้นยางพารากว่า 100 ต้น พบร่องรอยกระสุนปืนตามต้นยาง 10 จุด โดยทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้ทำเครื่องหมาย ปิดป้ายบอกถึงการต่อสู้กันโดยการใช้อาวุธปืนทั้ง 2 ฝ่าย ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รบบาดเจ็บดังกล่าว
ต่อมาได้เดินทางไปยังบ้านโคกกลางหมู่ที่ 3 ต.ห้วยยาง เพื่อพบกับนายไพรสิทธิ์ ยอดสง่า ผู้ใหญ่บ้าน เผยถึงเหตุการณ์ที่ลูกบ้าน คือนายนุ ที่ก่อเหตุยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เดิมทีนายนุ ผู้ต้องหากับตนไม่ค่อยรู้จักกันเท่าใดนัก เพราะตั้งแต่ที่เรียนจบก็ไม่อยู่บ้าน ออกไปทำงานในต่างถิ่น นาน ๆ จะเดินทางกลับมาบ้านสักครั้ง ในรอบหลาย ๆ ปี จนมาทราบอีกทีว่าเมื่อประมาณ 3 ปีที่ผ่านมาตนเองได้ไปเซ็นรับรองความพฤติกรรมของนายนุ ที่สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดขอนแก่น เนื่องจากถูกดำเนินคดีข้อหาครอบครองยาเสพติด จากนั้นก็ไม่ได้เจอตัวอีกเลย ซึ่งทางพ่อแน่ของนายนุนั้นก็เป็นบุคคลที่ชอบช่วยเหลือสังคมอยู่โดยตลอด
จากนั้นผู้ใหญ่บ้านได้พาไปพบกับนางแก้ว ภูโอบ อายุ 63 ปี มารดาของนายสกล หรือนุ ที่บ้านเลขที่ 168 หมู่ 3 บ้านโคกกลาง ซึ่งตั้งอยู่หัวหมู่บ้านทางด้านทิศตะวันออก นางแก้ว เผยว่า ตนเองพึ่งทราบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อวานตอนเย็นว่าลูกชายก่อเหตุยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ ปกติแล้วลูกชายจะไม่ค่อยกลับมาบ้าน โดยนิสัยส่วนตัวชอบทำอะไรด้วยตัวเอง ตั้งแต่เรียนเทคนิคที่ขอนแก่น เลิกเรียนก็จะไปทำงานเสิร์ฟอาหารที่ร้านตะวันแดง จนได้เมียคนแรกทั้งที่ยังเรียนไม่จบ ตนก็ต้องไปแต่งให้ และมีลูกด้วยกัน 1 คน แต่ก็ต้องเลิกลากันไป ซึ่งล่าสุดลูกชายก็ได้มีอีกจำนวน 3 คน จะมีลูกด้วยกันทุกคน ทั้งหมด 4 คน โดยหลานจะไปอยู่กับแม่ของเขา ซึ่งคนล่าสุดอยู่ที่บ้านกุดจิก อ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานตนเองยังไม่ปักใจเชื่อว่าใครเป็นฝ่ายกระทำก่อน เพราะที่ผ่านมาลูกจะเป็นฝ่ายถูกกระทำว่ามียาเสพติดครอบครอง จนมีคดีติดคุก โดยที่ต้องต่อสู้กัน ถึง 3 ศาล แต่ต้องถูกจำคุกเพิ่งพ้นโทษเมื่อวันที่ 31 มี.ค.63 จากนั้นลูกชายก็ออกไปทำงานต่างจังหวัด เจอครั้งสุดท้ายเมื่อ 4 เดือนที่ผ่านมา และมาทราบข่าวเมื่อเย็นวานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าลูกชายยิงต่อสู้ตำรวจ จนตำรวจได้รับบาดเจ็บ ส่วนลูกชายก็ถูกยิงเช่นกัน
ตนเองในฐานะผู้เป็นแม่อยากฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ หาดพบตัวก็อย่าทำอะไรรุนแรง ขอให้แจ้งมาให้แม่ทราบก่อนเพื่อที่จะเข้าไปเกลี้ยกล่อมให้มอบตัว กลัวลูกจะต่อสู้เจ้าหน้าที่ตำรวจและถูกวิสามัญ ถ้าหากนุ ลูกชายได้ยินข่าวทางสื่อมวลชนแล้ว ให้ออกมามอบตัวเสียแต่โดยดี เอาไว้สู้กันในชั้นศาล