![](https://www.esandailyonline.com/wp-content/uploads/2023/01/1-14.jpg)
![](https://www.esandailyonline.com/wp-content/uploads/2023/01/00-1-485x365.jpg)
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สามชัย และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน รุดตรวจสอบซากรถไถและรถพ่วงบรรทุกมันสำปะหลัง ชาวบ้านสุดงงจอดอยู่ดีๆเกิดไฟปริศนาโหมไหม้ลุกท่วมเสียหายกลายเป็นเศษเหล็ก สันนิษฐานเบื้องต้นเกิดจากระบบไฟขัดข้อง ระบุเคยเกิดเหตุในลักษณะเดียวกันในรอบเดือนนี้ 3 คันซ้อน ความเสียหายคันละ 1 ล้านบาท
![](https://www.esandailyonline.com/wp-content/uploads/2023/01/4-5-485x365.jpg)
เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณไร่อ้อยและไร่มันสำปะหลัง บ้านห้วยยาง ต.หนองช้าง อ.สามชัย จ.กาฬสินธุ์ พ.ต.ท. กิตต์ธานี ทิพย์ศิริคำ พนักงานสอบสวน สภ.สามชัย จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และนายกอบโชคชีพ โพธิ์สอน รองประธาน สภา อบต.สำราญ อ.สามชัยเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ไฟไหม้รถไถ และพ่วงบรรทุกมันสำปะหลัง โดยมีนายนรินทร์ โพธิ์งาม คนขับ และชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ให้ข้อมูล
![](https://www.esandailyonline.com/wp-content/uploads/2023/01/6-7-485x365.jpg)
สอบถามนายนรินทร์ โพธิ์งาม อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 130 หมู่ 2 ต.หนองหว้า อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี เป็นคนขับและคนเห็นเพลิงไหม้คนแรก กล่าวว่า ตนเป็นคนงานขับรถไถลากพ่วงบรรทุกหัวมันสำปะหลัง โดยมีนายบุญเลิศ เสนาวงค์ เป็นนายจ้าง ซึ่งเหตุไฟลุกไหม้รถไถคันดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 12.00 น.ของวันที่ 22 ม.ค.66ที่ผ่านมา หลังจากที่ตนขับรถไถพ่วงบรรทุกหัวมันสำปะหลังเกือบเต็มพ่วงมาจอดพักและดับเครื่องยนต์ไว้ เพื่อรับประทานอาหารเที่ยงกับเพื่อนคนงานอีก 2 คน โดยอยู่ห่างจากจุดที่รถไถคันดังกล่าวจอดประมาณ 500 เมตร อยู่ดีๆก็ได้ยินเสียงดังคล้ายเสียงระเบิด มาจากทิศทางที่รถไถและรถพ่วงบรรทุกหัวมันสำปะหลังจอดอยู่ ก่อนที่จะมองเห็นเปลวไฟลุกพรึ่บขึ้นที่ตัวรถไถ ประกอบกับช่วงนั้นอยู่กลางไร่อ้อยที่ตัดอ้อยออกไปขายหมดแล้ว จึงกลายเป็นลานกว้าง พร้อมกับมีลมหนาวกระโชกแรง จึงทำให้ไฟโหมไหม้ขึ้นอย่างรวดเร็ว
![](https://www.esandailyonline.com/wp-content/uploads/2023/01/1-14-485x365.jpg)
นายนรินทร์ กล่าวอีกว่า เมื่อเห็นเหตุการณ์ดังนั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะเกิดไฟไหม้ ตนถึงกับช็อคไปชั่วขณะ ก่อนที่จะตั้งสติได้และชวนเพื่อนวิ่งมาที่จุดเกิดเหตุ เพื่อช่วยกันดับไฟ แต่ก็สุดความสามารถเนื่องจากสถานที่เกิดเหตุไม่มีอุปกรณ์ช่วยดับไฟเลย โดยเฉพาะอยู่กลางไร่อ้อย ห่างจากหมู่บ้าน 3 กม.และอยู่ห่างถนนใหญ่ 6 กม. จึงไม่สามารถดับไฟได้ ในขณะที่ไฟได้โหมไหม้รถไถหมดทั้งคัน และยังลามไปไหม้ถึงส่วนของพ่วงบรรทุกหัวมันสำปะหลัง ได้รับความเสียหายเกือบทั้งคัน ตนทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ยืนงง และตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่าเกิดไฟไหม้รถไถได้ยังไง เพราะมั่นใจว่าไม่มีใครแอบมาวางเพลิงแน่นอน และไม่มีใครสูบบุหรี่ ที่จะทิ้งก้นบุหรี่ให้เป็นต้นเหตุของการเกิดไฟไหม้ได้
![](https://www.esandailyonline.com/wp-content/uploads/2023/01/7-10-485x365.jpg)
ที่มา : https://www.esandailyonline.com/