อุบลราชธานี – จับอดีตรองนายก อบต.เครือข่าย “ท้าวฟ้าใส” พ่อค้ายานรกรายใหญ่ชาวลาว

ตร.ทหาร อุบลฯจับอดีตรองนายก อบต.นาแวง เครือข่าย “ท้าวฟ้าใส” พ่อค้ายานรกรายใหญ่ชาวลาวขนยาไอซ์ น้ำหนัก 299 กก. มูลค่า 299 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ต.อ.ชาญชัย อินนรา ผกก.สส.ภ.จ.อุบลราชธานี นำเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภาค 3 ,ป.ป.ส.ภาค 3 .เจ้าหน้าที่ กอง 12 สปข.ศรภ และ ตร.สภ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานีนำหมายจับศาลจังหวัดอุบลราชธานีที่ จ.354/2566 ลงวันที่ 15 พ.ย.2566 เข้าจับกุมนายโกศล สีพรมมา อายุ 56 ปี อดีตรองนายก อบต.นาแวง อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี ได้ที่บ้านเลขที่ 91 หมู่ที่ 5 ต.นาแวง อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี แจ้งข้อหา ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายอันลักษณะเป็นการกระทำเพื่อการค้าก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและเป็นการกระทำที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือปลอดภัยของประชาชนทั่วไป สมคบกันโดยตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดและได้มีการกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและฟอกเงิน

สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 23.00 น.วันที่ 23 ธันวาคม 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ได้รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดชาวลาว จะลักลอบส่งยาเสพติดที่บริเวณพื้นที่ ต.นาแวง อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี เจ้าหน้าที่จึงสนธิกำลังเข้าตรวจสอบที่บริเวณริมถนนสายบ้านนาสะอาด-บ้านถ้ำตาลาว พบรถกระบะต้องสงสัย ยี่ห้อเชฟโรเลต สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน วิ่งผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญาณเพื่อขอตรวจค้น ซึ่งมีชายฉกรรจ์ 2 คน นั่งมาในรถรู้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ จึงได้จอดรถทิ้งแล้ววิ่งหลบหนีเข้าป่าข้างทางหลบหนีไปได้ ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจค้นด้านหลังรถกระบะพบไอซ์ 9 กระสอบและในตัวรถ 1 กระสอบ รวมทั้งหมด 299 กก. มูลค่า 299 ล้านบาท จึงได้ทำการตรวจยึดนำของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เขมราฐ ดำเนินคดี

จากการสืบสวนขยายผล ทราบว่า ยาเสพติดดังกล่าวเป็นของกลุ่มท้าวฟ้าใส ไชยสิงห์ ราษฎรบ้านนาโค เมืองสองคอน แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว โดยมีนายโกศล สีพรมมา อายุ 56 ปี รองนายก อบต.นาแวง อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานีเป็นผู้ติดต่อประสานงานกับเครือข่ายยาเสพติดกลุ่มท้าวฟ้าใส เพื่อลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามายังฝั่งไทย เจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายจับดังกล่าว

ที่มา : https://www.esandailyonline.com/

อุบลราชธานี – สร้างสรรค์ SOFT POWER ด้านภาพยนตร์ สู่ตลาดโลก

จังหวัดอุบลราชธานี สร้างสรรค์ Soft Power ด้านภาพยนตร์ บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ในพื้นที่ กระตุ้นการท่องเที่ยวผ่านอุตสาหกรรม


จังหวัดอุบลราชธานี สร้างสรรค์ Soft Power ด้านภาพยนตร์ บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ในพื้นที่ กระตุ้นการท่องเที่ยวผ่านอุตสาหกรรมบันเทิง สู่ตลาดโลก

ที่ วัดหลวง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี บริษัท จุ๊ ซอย จ้ำ เอ็นเตอร์เทนเม้น จำกัด ได้จัดพิธีบวงสรวง เริ่มถ่ายทำภาพยนตร์ เรื่อง “GLOW” ( โกลว์ ) ขึ้น โดยมี ดร.ปะนะชัย คำสิงห์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมด้วย “เติร์ก” ธนเดช รามสมภพ ผู้กำกับ ดารานำ ทีมงาน ผู้สนับสนุนรวมในพิธีฯ

สำหรับ ภาพยนตร์ เรื่อง “GLOW” ( โกลว์ ) เป็นภาพยนตร์กึ่งสารคดี บอกเล่าเรื่องราวของจังหวัดอุบลราชธานี ที่มี Soft Power โดดเด่น และน่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นทางด้านสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความ สวยงาม นาสัมผัส ประเพณีวัฒนธรรม วิถีชีวิต ชาวบ้าน ชาวชุมชนในพื้นที่ เสื้อผ้า การแต่งกาย อาหารการกิน สถานที่พัก-โรงแรม ผ่านการดำเนินเรื่องของนักแสดงที่ยังไม่เคยมา จังหวัดอุบลราชธานี และได้ไปยังสถานที่ต่างๆ ที่ตื่นตาตื่นใจ โดยจะใช้พื้นที่ จังหวัดอุบลราชธานี ถ่ายทำถึง 80 เปอร์เซนต์

อุบลราชธานี – ผช.โชเฟอร์รถไฟ โดดลงสถานี ‘พลาด’ ล้มคารางถูกรถทับแขนขา เสียชีวิตที่โรงพยาบาล

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 23 ม.ค. 2566 พ.ต.ท.ธีรวัฒน์ เหิงขุนทด สารวัตรเวรสอบสวน สภ.วารินชำราบจ.อุบลราชธานี ได้รับแจ้งมีคนกระโดดลงจากรถไฟถูกรถไฟทับได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงเดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุที่ชานชาลาช่องที่ 1 สถานีรถไฟอุบลราชธานี อำเภอวารินชำราบ ทราบชื่อ นายสมเชษ (สงวนนามสกุล) อายุ 59 ปีตำแหน่งพนักงานขับรถเวร 2  มีบาดแผลถูกล้อรถไฟทับที่แขนซ้ายและขาขวาจนเกือบขาด ได้รับบาดเจ็บสาหัส หน่วยกู้ภัยนำตัวส่งโรงพยาบาลประจำอำเภอวารินชำราบและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ทั้งนี้นายสมเชษ ได้ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยพนักงานขับรถไฟ มากับขบวนรถเร็วที่ 141 ออกจากสถานีกรุงเทพฯเวลา22.45 น.ถึงสถานีปลายทางอุบลราชธานี เวลา 10.20 น.โดยนายสมเชษ ขับรถไฟขบวนดังกล่าวมาถึงจังหวัดบุรีรัมย์แล้วพักเปลี่ยนคนขับ จากนั้นขณะที่ขบวนรถมาถึงสถานีปลายทางที่จังหวัดอุบลราชธานี รถกำลังชะลอความเร็วเพื่อเข้าจอดยังชานชาลาช่องที่ 1 เพื่อส่งผู้โดยสาร เมื่อขบวนรถแล่นมาถึงกลางสถานี โดยรถยังไม่หยุดนิ่ง นายสมเชษที่ยืนรอลงรถตรงบันไดทางขึ้นลง ได้กระโดดลงจากรถ แต่กระเป๋าเป้แบบสะพายด้านหลังไปเกี่ยวกับราวเหล็กของบันไดทางขึ้นรถ ทำให้ตกลงไปบริเวณช่องที่เป็นรางรถไฟ ทำให้ถูกล้อรถไฟทับที่แขนและขาหัก รวมทั้งลากร่างครูดไปกับรางรถไฟจนได้รับบาดเจ็บสาหัส กู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลวารินชำราบและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ภาพ/ข่าว : ยงยุทธ ผูกพันธ์ อุบลราชธานี

เจ้าหน้าที่ศูนย์อำนวยการและประสานงานช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ทส. จ.อุบลฯ นำอุปกรณ์ทำความสะอาดลงเรือ ฟื้นฟู โรงเรียน ที่จมอยู่กลางน้ำสูงกว่า 2 เมตร

เจ้าหน้าที่ ศูนย์อำนวยการและประสานงานช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อุบลราชธานี ได้ลงเรือ มุ่งหน้าไปสู่ โรงเรียนบ้านหาดสวนยา อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี นำโดย นายอัครพงษ์ เขียวแจ่ม ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งขณะนี้น้ำในพื้นที่แห่งนี้ยังท่วมสูงอยู่

โดยการลงพื้นที่ในครั้งนี้ ได้นำอุปกรณ์ทำความสะอาดลงเรือไปด้วยเพื่อนำไปทำความสะอาดชั้น 2 ของโรงเรียน ซึ่ง มีโต๊ะ เก้าอี้ อุปกรณ์การเรียนการสอน ได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก เนื่อจากจมอยู่กับน้ำเป็นเวลานาน ในขณะที่ชั้น 1 ยังทำความสะอาดไม่ได้ เนื่องจากนำยังท่วมสูงกว่า 2 เมตร

นายอัครพงษ์ เขียวแจ่ม ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า ศูนย์อำนวยการและประสานงานช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อุบลราชธานี ได้ลงสำรวจพื้นที่ของโรงเรียนแห่งนี้ฯ พบว่าอาคารของโรงเรียน เป็นอาคารไม้ซึ่งมีอายุหลายสิบปี เกรงว่าโคลนตมที่มากับน้ำจะสร้างความเสียหายให้กับอาคาร ทำให้ อาคารทรุดโทรม มีอายุการใช้งานที่สั้นลง ถ้าปล่อยไว้นานจะติดแน่น และล้างทำความสะอาดได้ยาก เมื่อน้ำลดจึงต้องรีบดำเนินการ เนื่องจาก ศูนย์อำนวยการและประสานงานช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดอุบลราชธานี มีอุปกรณ์ครบครัน และเจ้าหน้าที่ ที่มุ่งมั่นทำงาน ช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ได้อย่างเต็มที่และเข้มแข็ง และเข้าแก้ไขปัญหาได้ครบวงจร สะอาดเรียบร้อย

ทั้งนี้ ศูนย์อำนวยการและประสานงานช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยแห่งนี้ เกิดจากการรวมใจเป็นหนึ่งของ 8 หน่วยงาน ในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในพื้นที่ ซึ่งการเข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วม นับเป็นภาระกิจที่สำคัญของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการบำบัดทุกข์บำรุงสุข คอยอยู่เคียงข้างพี่น้องประชาชน ไม่ทอดทิ้งกันในยามที่ทุกข์ยากอีกด้วย.

ภาพ/ข่าว : (วิชิต) วัชรพล มีสวัสดิ์ อุบลราชธานี

ที่มา : https://www.esandailyonline.com/

ยังขาดปัจจัยอีกมาก! เชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญ ก่อสร้างสำนักสงฆ์สร้างทรัพย์เจริญธรรม

พระอาจารย์อุทิศ ชุติทฺธิโก ผู้ก่อสร้างสำนักสงฆ์สร้างทรัพย์เจริญธรรม ต.อ่างศิลา อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี ได้จัดงานกฐินสามัคคีประจำปี 2565 โดยมีชาวบ้านที่ศรัทธามาร่วมบุญเป็นจำนวนมาก สำนักสงฆ์สร้างทรัพย์เจริญธรรม ได้จัดสร้างขึ้นใน วันที่ 27 เมษายน 2564 ดำเนินการก่อสร้างมาเป็นเวลา 1 ปี 6 เดือนแล้ว ยังขาดปัจจัยในการก่อสร้างอีกมาก ท่านใดมีความประสงค์จะทำบุญก่อสร้างติดต่อ ประสานงานพระอาจารย์อุทิศ ได้โดยตรงเลย โทร.084-3299931

เรื่องเล่าเหตุการณ์จริง พระอาจารย์อุทิศ ได้บวชมาตั้งแต่เป็นเณรจนถึงปัจจุบันอายุ 50 ปี 30 พรรษา เมื่อครั้นน้องชายพระอาจารย์ได้เข้าโรงบาลแล้วหัวใจหยุดเต้นไป 12 นาทีกลับมาฟื้นเล่าให้ฟังว่า ตัวน้องชาย (จิตวิญญาณ)ได้กลับมาบ้าน แต่มาเจอพระอาจารย์อุทิศ ท่านบอกว่า กลับมาทำไมแบบนี้ให้กลับไปดวงท่านยังไม่ถึงเวลาจากโลก น้องชายท่านพระอาจารย์จึงกลับมาฟื้นและมาเล่าให้ตัวผมฟังเมื่อช่วงที่อยู่โรงพยาบาล อภินิหารยังมีอยู่จริง

ตร.ชุดสืบ สภ.วารินชำราบตามจับทันควัน! คนร้ายขโมยรถ จยย. อ้างตกงานจึงก่อเหตุ

เมื่อวันที่ 26 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ยุทธนา พฤกษารุ่งเรือง ผกก.สภ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พร้อมด้วย พ.ต.ท.บวรศักดิ์ คำรังษี รอง ผกก.สส.ฯ ,พ.ต.ต.พิศาล ศุภโกศล สว.สส.,ร.ต.อ.สถิตคุณ สุขหล้า รองสารวัตรสืบสวน ชุดที่ 4 และชุดสืบสวน ร่วมกันทำการจับกุม นายนิตยา (สงวนนามสกุล) อายุ 44 ปีชาวบ้าน ต.ยางชุมน้อย อ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ ได้ที่ตลาดเจริญศรี ต.แสนสุข อ.วารินชำรา จ.อุบลราชธานีพร้อมด้วยของกลาง รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า ZX แจ้งข้อหา“ลักทรัพย์หรือรับของโจร เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 25 กันยายน

ทั้งนี้เมื่อเวลา 13.30 น. น.ส.จิราวรรณ อายุ 30 ปี เดินทางมายัง สภ.วารินชำราบ แจ้งว่า ได้จอดรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า ZX ขนาด 50 ซีซี ไว้ที่หลังร้านค้าส.อุบลซีฟู้ด โดยเสียบกุญแจคารถไว้แล้วขายของตามปกติ ต่อมารถจักรยานยนต์ดังกล่าวหายไป เมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า มีคนร้ายก่อเหตุลักเอาไป หลังจากได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุและรวบรวมข้อมูลจากกล้องวงจรปิด ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ติดตามจับกุมตัว นายนิตยา (สงวนนามสกุล) อายุ 44 ปีผู้ก่อเหตุพร้อมของกลาง จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว : ยงยุทธ ผูกพันธ์ อุบลราชธานี

ที่มา : https://www.esandailyonline.com/

หนีน้ำมูลไหลท่วม กู้ภัยเร่งอพยพผู้ป่วยติดเตียงเจ้าหน้าที่ชุดกู้ภัยทางน้ำมูลนิธิสว่างบูชาธรรมสถาน จ.อุบลราชธานี

อาจเป็นรูปภาพของ แหล่งน้ำ และ ต้นไม้
อาจเป็นรูปภาพของ 4 คน และ ผู้คนกำลังยืน

หนีน้ำมูลไหลท่วม กู้ภัยเร่งอพยพผู้ป่วยติดเตียงเจ้าหน้าที่ชุดกู้ภัยทางน้ำมูลนิธิสว่างบูชาธรรมสถาน จ.อุบลราชธานี เดินลุยน้ำท่วมสูงเกือบถึงหน้าอก นำอุปกรณ์ใช้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยเข้าช่วยเกลือชาวบ้านสูงอายุที่เป็นผู้ป่วยติดเตียงในบ้านคูสว่าง ต.หนองกินเพล อ.วารินชำราบ จำนวน 3 ราย

อาจเป็นรูปภาพของ 7 คน, ผู้คนกำลังนั่ง และ แหล่งน้ำ
อาจเป็นรูปภาพของ 3 คน, ผู้คนกำลังยืน และ แหล่งน้ำ

ซึ่งติดอยู่ในบ้านพักอาศัยที่แม่น้ำมูลล้นตลิ่งไหลเข้าท่วม ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ต้องใช้ทักษะและความระมัดระวัง เนื่องจากเป็นทั้งผู้สูงอายุและเป็นผู้ป่วยติดเตียงที่มีความอ่อนไหวทางกายภาพ นำมาพักอาศัยที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวของตำบลที่บ้านปากกุดหวาย อยู่ห่างจากหมู่บ้านมาประมาณ 3 กิโลเมตร เพื่อความปลอดภัยช่วงที่แม่น้ำมูลยังมีระดับสูงขึ้นต่อเนื่องสำหรับตำบลหนองกินเพล ซึ่งส่วนใหญ่พื้นที่ชุมชนตั้งอยู่ติดแม่น้ำมูล ขณะนี้ถูกแม่น้ำมูลล้นตลิ่งไหลท่วมบ้านเรือนและพื้นที่เพาะปลูกเป็นวงกว้าง โดยอำเภอวารินชำราบ มี 11 ตำบล ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม และต้องอพยพแล้ว 1,015 คน จาก 51 ชุมชน มีพื้นที่เกษตรกรรมถูกน้ำท่วมกว่า 10,800 ไร่ ซึ่งแม่น้ำมูลยังมีแนวโน้มสูงขึ้นอีก

อาจเป็นรูปภาพของ 2 คน, ผู้คนกำลังยืน และ แหล่งน้ำ

จังหวัดอุบลราชธานี จัดงาน อุบลอีทแอนด์อาร์ตเฟส 2022 เทศกาลศิลปะและวัฒนธรรมอาหาร ตอกย้ำความเป็นเมืองศิลปะและเต็มไปด้วยศิลปิน เสพงานศิลป์กระตุ้นเศรษฐกิจ

ที่ ศูนย์การค้า วายสแควร์ Y-Square Food Mall อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ได้มีการจัดงาน อุบลอีทแอนด์อาร์ตเฟส 2022 (Ubon Eat & Art Fest 2022) ขึ้น โดยมี นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมด้วย นางศลิษา ภิรมย์รัตน์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดอุบลราชธานี ,ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อํานวยการ สํานักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ,นางสาวพิศทยา ไชยสงคราม นายกเทศมนตรีนครอุบลราชธานี ,นายธานิน ภัทรธนเศรษฐ์ ประธานนักธุรกิจรุ่นใหม่หอการค้าไทย (YEC) จังหวัดอุบลราชธานี หัวหน้าส่วนราชการ ,ผู้นำองค์กรภาคเอกชน ,ทหาร ,ศิลปิน , ประชาชน ,เยาวชน ร่วมในพิธีเปิดงานด้วยการจารึกความงดงามของศิลปะลงบนผืนผ้า

สำหรับงานอุบลอีทแอนด์อาร์ตเฟส 2022 (A part of UBON ART FEST) จัดขึ้น โดย ศูนย์การค้า วายสแควร์ ร่วมกับ ภาคีเครือข่ายหอการค้าอุบลราชธานี ภาคการศึกษา สํานักงานนวัตกรรมแห่งชาติ ศิลปินชาวจังหวัดอุบลราชธานี ได้ร่วมกันจัดขึ้นเพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดการรับรู้ของประชาชนในพื้นที่ โดยนำเอางานศิลปะและงานอาหารมาเป็นแก่นของการจัดงาน โดยได้ใช้แนวคิดเชิงนวัตกรรมมาเชื่อมโยงให้เกิดงานเทศกาลศิลปะและวัฒนธรรมอาหารที่ตอกย้ำความเป็นเมืองศิลปะและเต็มไปด้วยศิลปินของจังหวัดอุบลราชธานี

โดยมีกิจกรรมการแสดงศิลปะจากอาหาร ทั้งระดับมืออาชีพและระดับเยาวชน ,การนำเสนอนวัตกรรมในวงการอาหารและเครื่องดื่ม มีการออกร้านของร้านอาหารและร้านกาแฟชื่อดังในจังหวัดอุบลฯ ,การจัดแสดงงานศิลปะ NFT Digital Art Exhibition อีกทั้งยังมีการแสดงดนตรีพื้นบ้านร่วมสมัยและศิลปินนักร้องชื่อดัง รวมไปถึงการจัดเสวนาและการบรรยายพิเศษจากผู้เชี่ยวชาญระดับประเทศ ทั้งวงการอาหาร กาแฟ และ NFT โดยประยุกต์เนื้อหาของการจัดงานให้เกิดความน่าสนใจต่อการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มคนรุ่นใหม่เพื่อให้เกิดความภาคภูมิใจและแรงบันดาลใจในศิลปะและวัฒนธรรมอาหารของตนเอง ในขณะเดียวกันยังเป็นเวทีการนำเสนอและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางศิลปะของศิลปินทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่อย่างผสมกลมกลืน อีกทั้งยังเป็นการสร้างนวัตกรรมการท่องเที่ยวให้กับจังหวัดอุบลราชธานี เป็นการสร้างอีเว้นท์ด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ใหม่ให้กับจังหวัด ยังผลให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในจังหวัด

ภาพ/ข่าว : ยงยุทธ ผูกพันธ์ อุบลราชธานี

ที่มา : https://www.esandailyonline.com/

อุบลราชธานี – เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ภูจองนายอยล้อมจับชาวกัมพูชาลักลอบตัดไม้มะค่าโมงในเขตประเทศไทย

มื่อวันที่ 21 สิงหาคม2565 นายจิณณะ สามศรี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย นำเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 2 (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ชุดปฏิบัติการพิเศษที่ 3 จังหวัดอุบลราชธานี ได้ร่วมกันตรวจยึดจับกุมนายเมา อายุ 47 ปี ชาวกัมพูชา อยู่บ้านสามเหลี่ยมตรีมุข อำเภอจอมกระสาน จังหวัดพระวิหาร พร้อมของกลาง ไม้มะค่าโมงแปรรูป ลักษณะใหม่ ถูกแปรรูปด้วยเลื่อยโซ่ยนต์ จำนวน 3 แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตรรวม 0.127 ลูกบาศก์เมตร พร้อมไฟฉายคาดศีรษะ จำนวน 3 ชุด ที่บริเวณป่าพลาญเนิน 382 ด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้บ้านแปดอุ้ม หมู่ที่ 2 ห่างจากหมู่บ้าน 5.5 กิโลเมตร ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ในเขตอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย ซ้อนทับป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดงภูเมย ป่าเขาสวนตาล และป่าพลานไหแตก พร้อมของกลาง ไม้มะค่าโมงแปรรูป จำนวน 3 แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตรรวม 0.127 ลูกบาศก์เมตรพร้อมไฟฉายคาดศีรษะ จำนวน 3 ชุด

นายจิณณะ สามศรี กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายว่ามีการลักลอบตัดไม้และแปรรูปไม้โดยใช้เลื่อยโซ่ยนต์ ที่บริเวณป่าพลาญเนิน 382 ด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้บ้านแปดอุ้ม หมู่ที่ 2 ห่างจากหมู่บ้าน 5.5 กิโลเมตร ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ในเขตอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางเข้าตรวจสอบบริเวณรับแจ้ง ซึ่งเป็นเส้นทางเดินเท้าในป่า พบรอยเท้าของบุคคลหลายรอย เดินไปมา สังเกตเป็นร่องรอยใหม่ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการวางแผนตรวจสอบและดักซุ่มบริเวณ 2 ข้างเส้นทาง ต่อมามีชาย 3 คน เดินแบกไม้มะค่าโมงตามกันมา เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจสอบ เมื่อชายทั้ง 3 คน เห็นเจ้าหน้าที่ได้วิ่งหลบหนีไปคนละทิศละทาง อาศัยความชำนาญในพื้นที่หลบหนีไปได้ 2 คน เจ้าหน้าที่วิ่งไล่ตามสามารถจับกุมตัวไว้ได้ 1 คนเป็นชาวกัมพูชา พร้อมของกลาง ดังกล่าว

โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหานายเมา ร่วมกันทำอันตรายหรือทำให้เสื่อมสภาพซึ่งไม้ หรือทรัพยากรธรรมชาติอื่น โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่, ร่วมกันทำไม้ หรือทำอันตรายโดยประการใดๆ แก่ไม้หวงห้าม โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่, ร่วมกันแปรรูปไม้หวงห้าม โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่, ร่วมกันทำไม้ หรือทำให้เสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ จากนั้นได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.น้ำยืน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ดำเนินคดีตามกฎหมาย

ภาพ/ข่าว:ยงยุทธ ผูกพันธ์ อุบลราชธานี รายงาน

ที่มา : https://www.esandailyonline.com/

จ.อุบลราชธานี จัดงานมหกรรมการค้าชายแดนไทย-สปป.ลาว-กัมพูชา 19 – 21 สิงหาคม นี้

ที่หอประชุมโดมใหญ่ วิทยาลัยเทคนิคอุบลราชธานี อำเภอเมือง นายทรงพล วิชัยขัทคะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วยนายธัชชญาน์พล อภิมนต์เตชบุตร รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ และนายพีรพัฒก์ อุทัยศรี ผู้อำนวยการกองความร่วมมือการค้าและการลงทุน กรมการค้าต่างประเทศ ร่วมเปิดงานมหกรรมการค้าชายแดนไทย-สปป.ลาว-กัมพูชา ซึ่งจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 19 – 21 สิงหาคม 2565 ที่หอประชุมโดมใหญ่ วิทยาลัยเทคนิคอุบลราชธานี โดยมีพาณิชย์จังหวัดอุบลราชธานี หัวหน้าส่วนราชการ ภาครัฐ ภาคเอกชน ประธานหอการค้าจังหวัดอุบลราชธานี ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดอุบลราชธานี เข้าร่วมงาน

นายพีรพัฒก์ อุทัยศรี ผู้อำนวยการกองความร่วมมือการค้าการลงทุน กรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า การจัดงานมหกรรมการค้าชายแดนดังกล่าว จัดขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการค้าและการลงทุนบริเวณชายแดน สร้างความเชื่อมโยงระหว่างเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษของไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน และ พัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันและเสริมสร้างศักยภาพผู้ประกอบการค้า ชายแดนของไทย เป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานกรมการค้าต่างประเทศ สำนักงานพาณิชย์อุบลราชธานี กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ที่ตั้งอยู่ในอาเซียนและจีน อาทิ นครหลวงเวียงจันทน์ กรุงพนมเปญ นครย่างกุ้ง กรุงฮานอย นครหนานหนิง เป็นต้น กิจกรรมประกอบด้วย การแสดงและจำหน่ายสินค้าคุณภาพส่งออกจากผู้ประกอบการกว่า 80 ราย ซึ่งเป็นสินค้าเด่นและสินค้าชุมชนที่มีชื่อเสียงจากจังหวัดอุบลราชธานี

และจังหวัดใกล้เคียง อาทิ เครื่องสำอางจากสมุนไพรแปรรูป ผักอบกรอบและวุ้นเส้นน้ำมะพร้าว จากจังหวัดอุบลราธานี กระเป๋าผ้าไทย จากจังหวัดสกลนคร เครื่องสำอางจากจังหวัดบุรีรัมย์ และ สุรินทร์ ตลอดจนผลิตภัณฑ์จากต่างภูมิภาคอื่น ๆ อาทิ อาหารทะเลแปรรูป จากจังหวัดตรัง การเจรจาจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการการค้าชายแดนของไทยกับผู้นำเข้าจากประเทศสมาชิกอาเซียน โดยเฉพาะ สปป.ลาว กัมพูชา เวียดนามเมียนมา รวมถึง จีน นอกจากนี้ยังมีงานสัมมนา หัวข้อ “ลดต้นทุนธุรกิจ ติดอาวุธทางการค้า พิชิตตลาด RCEP”

ด้านนายทรงพล วิชัยขัทคะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า การจัดงานมหกรรมการค้าชายแดนในครั้งนี้ จะช่วยสร้างโอกาสของสินค้าไทย โดยเฉพาะสินค้าจากผู้ประกอบการ SMEsในจังหวัดอุบลราชธานีและจังหวัดใกล้เคียง ทั้งสินค้าเกษตร เกษตรแปรรูปอุตสาหกรรม และธุรกิจบริการ ให้มีช่องทางการตลาด สามารถเข้าถึงผู้ซื้อในต่างประเทศได้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีอีกทางหนึ่ง

ที่มา : https://www.esandailyonline.com/