อุดรธานี – รวมพลังรวบหนุ่มเมาคลั่งปีนป้ายศาลากลางอุดร ควบคุมตัวขึ้นรถตราโล่ยังยังไม่หยุดคลั่ง

To buy the replica watches online, please visit oldwatches.uk!

Excellent Swiss Movement AAA+ Omega Replica Watches With Low Prices For Men And Ladies. Special 1:1 Super Clone/Cheap Fake Omega Watches Hot Sale.

Looking for the best Replica Watches site 2024 in the world? Buy now High-Quality replica watches for the best price on replicaclone.is website.

cartier replica uk

พลังรวบหนุ่มเมาคลั่งปีนป้ายศาลากลางอุดรฯ ควบคุมตัวขึ้นรถตราโล่ยังไม่สิ้นฤทธิ์จะกระโดดลงมา

เมื่อเวลา 17.25 น.วันที่ 27 พฤษภาคม ร.ต.อ.วิฆเนศ ซื่อตรง รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งจากกองร้อยรักษาดินแดน (อส.) ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ในศาลากลางจังหวัดอุดรธานี ว่ามีเหตุชายคุ้มคลั่งอาละวาดปีนขึ้นไปบนป้ายศาลากลางจังหวัด ริมรั้วตรงข้ามที่ว่าการอำเภอเมืองอุดรธานี บริเวณ 4 แยกถนนมุขมนตรีตัดกับถนนอธิบดี เบื้องต้นสามารถควบคุมตัวเอาไว้ได้ แต่ได้ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ อส. หลังจากได้รับแจ้งจึงรีบรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยสายตรวจ 191 และอาสากู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน

ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันควบคุมตัวนายอนุวัฒน์ แจ้งสนาม อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55 ม.9 ต.เขาสวนกวาง อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น ใส่เสื้อรักแม่สีฟ้า โดยมีการขัดขืนไม่ยินยอมให้จับกุมแต่โดยดี หลังถูกใส่กุญแจมือ ยังพยายามจะทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ด้วยการถีบ พร้อมตะโกนท้าทายชกต่อยกับทุกคนที่อยู่ใกล้แม้แต่ผู้สื่อข่าว บอกเพียงว่า “ตนกินเหล้าขาวไป 2 ขวดใหญ่ เดินตามทางมาก็มีแต่คนดูถูกเหยียดหยาม” เจ้าหน้าที่ต้องเร่งนำตัวขึ้นท้ายรถกระบะตราโล่ไปที่ สภ.เมืองอุดรธานี ด้วยความโกลาหล นำตัวขึ้นรถตราโล่ยังไม่สิ้นฤทธิ์ ก็ยังจะกระโดดลงมาจากรถ

นายยุทธศักดิ์ ชมสะนัด อายุ 27 ปี อส.กองร้อยรักษาดินแดนที่ 1 อุดรธานี กล่าวว่า ขณะที่ตนกำลังขี่รถ จยย.ตรวจความเรียบร้อยรอบศาลากลาง เมื่อมาถึงฝั่งตรงข้ามที่การอำเภอเมือง ได้เห็นชายคนก่อเหตุปีนโวยวายอยู่บนป้ายศาลากลางแล้วกระโดดลงมา ตนจึงจอดรถ จยย.เดินเข้าไปสอบถาม แต่เขาก็ได้กระโดดถีบแผงกันจราจรที่วางซ้อนกันอยู่บนฟุตบาธจำนวน 3 แผง แล้วพยายามจะเดินข้ามถนนไปฝั่งที่ว่าการอำเภอ

“เมื่อเขาไปถึงกลางถนน รองเท้าแตะเขาหลุด และมีบาดแผลจากการกระโดดถีบแผง มีเลือดไหล เขาจะเดินย้อนกลับมาฝั่งเดิมแล้วตะโกนโวยวายอีกครั้ง จากลักษณะอาการชายคนนี้เมายาเสพติดแน่นอน สอบถามก็ไม่รู้ความ เอะอะโวยวายอย่างเดียว ซ้ำยังมีการทำร้ายเจ้าหน้าที่ ด้วยการถีบและต่อย จึงเข้าจับกุมด้วยยุทธวิธีที่ฝึกซ้อมมา จับใจความที่เขาโวยวายได้ว่า ไม่มีใครรักเขา และเขาจะฆ่าตัวตาย

หลังจากตำรวจนำตัวนายอนุวัฒน์ฯ ไปที่ชุดปฏิบัติการณ์ 191 สภ.เมืองอุดรธานี ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะสงบลง ยังคงเอะอะโวยวายอยู่ตลอดเวลา ผู้สื่อข่าวสอบถามจับใจความได้ว่า “มาจากขอนแก่น มาทำงานกับญาติ ที่ อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ รับจ้างตัดหญ้าในสวนยาง ทำงาน 3 อาทิตย์ได้เงินเพียง 500 บาท ตนจะข้ามฝั่งไปฆ่าคน คนหนึ่ง ให้จำคำพูดของตนไว้” เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวนายอนุวัฒน์ฯ ไว้ที่สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อสงบสติอารมณ์ ซึ่งจะได้ทำการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดอีกครั้ง เพื่อรอดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

อุดรธานี – ศาลเจ้าปู่-ย่าอุดรจัดถนนอาหาร PUYA NIGHT MARKET ทุกวันเสาร์และอาทิตย์

If you’re looking for the best replica watches in the UK, click boomwatches.

When you are searching a website for selling Rolex replica, perfectwatches1.sr probably is your best choice. Here, we have the latest price and examination of Rolex replica and also provide the replica of ceramic movement and high-quality Swiss movement. Moreover, we guarantee the best price and superior customer service. Let’s take a look the original views from perfectwatches1.sr about Rolex replica.

Best place to choose panerai replica watchesour website:swissmade.is. Here you will find a great selection of fake watches at affordable prices for excellent quality.

ศาลเจ้าปู่-ย่าอุดรจัดถนนอาหาร PUYA NIGHT MARKET ทุกวันเสาร์และอาทิตย์รวบรวมอาหารหลากหลายให้นักท่องเที่ยวให้ช็อป ชิล พร้อมสักการะเจ้าปู่-เจ้าย่า เพื่อความเป็นสิริมงคล

เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 19 พฤษภาคม ดร.ธนดร พุทธรักษ์ นายกเทศมนตรีนครอุดรธานี เป็นประธานในพิธีเปิดถนนอาหาร PUYA NIGHT MARKET ซึ่งจัดโดยมูลนิธิศาลเจ้าปู่-ย่า ที่ถนนบริเวณหน้าหน้ามูลนิธิศาลเจ้าปู่-ย่า อุดรธานี เขตเทศบาลนครอุดรธานี โดยจะจัดให้มีขึ้นทุกวันเสาร์และอาทิตย์ โดยมีนายวิศิษฏ์ เอื้อวงศ์กูล ประธานมูลนิธิศาลเจ้าปู่-ย่า อุดรธานี สมัยที่ 5 นางอรัญญา อุดมลาภ รองประธานหอการค้าจังหวัดอุดรธานี พร้อมด้วยคณะกรรมการ ให้การต้อนรับพร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติอย่างคับคลั่ง

ดร.ธนดร  กล่าวว่า ด้วยทางมูลนิธิศาลเจ้าปู่-ย่า อุดรธานี ได้จัดถนนอาหาร PUYA NIGHT MARKET ขึ้นทุกวันเสาร์และอาทิตย์ ขึ้นที่ บริเวณหน้ามูลนิธิศาลเจ้าปู่-ย่าอุดรธานีไปจนถึงทางเข้าศาลเจ้าปู่-ย่า เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างอาชีพให้กับพ่อค้าแม่ค้าภายในจังหวัดอุดรธานี โดยรวบรวมอาหารหลากหลายชนิดให้นักท่องเที่ยวหรือประชาชนทั่วไป ที่เดินทางมากราบไหว้องค์เจ้าปู่ เจ้าย่า ได้เดินช็อป ชิลพร้อมกับเที่ยวชมศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน ซึ่งนอกจากการเดินช็อป ชิลแล้ว ยังสามารถเข้ากราบไหว้ขอพรองค์เจ้าปู่-เจ้าย่า เพื่อความเป็นสิริมงคลด้านในศาลเจ้าปู่ย่าอุดรธานีได้อีกด้วย

อุดรธานี-สนธิกำลังทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร ไล่ล่าเด็ดปีกนักค้าอีสานเหนือ รวบ 75 ผู้ค้าของกลางกว่า 24 ล้าน

อุดรสนธิกำลังทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร ไล่ล่าเด็ดปีกนักค้าอีสานเหนือ รวบ 75 ผู้ค้าของกลางกว่า 24 ล้าน

วันที่ 30 มกราคม ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี นายวันชัย คงเกษม ผวจ.อุดรธานี พล.ต.ต.สรรธาน อินทรจักร ผบก.ภ.จ.อุดรธานี กอ.รมน.อุดรธานี ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจทางหลวง ตำรวจสันติบาล ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี สถานีตำรวจ 23 สถานี ทุกหน่วยงานในสังกัด ร่วมกันแถลงข่าวผลการปิดล้อมตรวจค้นยาเสพติด ภายใต้โครงการ ยุทธการไล่ล่านักค้าอีสานเหนือ 252 “NO Place For Drug” โดยได้ออกหมายจับ หมายค้น ปิดล้อมตรวจค้น ยึด อายัดทรัพย์สิน ของนักค้ายาเสพติดและเพื่อค้นหาพยานหลักฐาน เพื่อขยายผลเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ จ.อุดรธานี

พร้อมผู้ต้องหายาเสพติด 75 คน 75 คดี ของกลาง ยาบ้า 313,022 เม็ด ยึดเงินสด 148,971 บาท อาวุธปืน 15 กระบอก มูลค่า 322,525 บาท ยึดสิ่งปลูกสร้างพร้อมที่ดิน 7 ราย มูลค่า 8,677,500 บาท ยึดทองรูปพรรณ มูลค่า 229,000 บาท ยึดรถยนต์ 21 คัน มูลค่า 12,080,000 ยึดรถจักรยานยนต์ 54 คัน 3,192,000 บาท ยึดโทรศัพท์มือถือ แท็ปเล็ต 18 เครื่อง มูลค่า 160,350 บาท รวมทรัพย์สินทั้งสิ้น 124 รายการ มูลค่า 24,810,346 บาท โดยปฏิบัติการไล่ล่าเด็ดปีกนักค้าอีสานเหนือ ในเวลา 06.00 น.วันที่ 26-29 มกราคม ได้ปล่อยแถวระดมกวาดล้าง หน้ากองบังคับการตำรวจภูธร จ.อุดรธานี ก่อนเข้าจับกุมกลุ่มเป้าหมาย

นายวันชัย คงเกษม กล่าวว่า ครั้งนี้เป็นการบูรณาร่วมกันระหว่าง ปกครอง ตำรวจ ทหาร ในชื่อภารกิจ ยุทธการไล่ล่านักค้าอีสานเหนือ 252 “NO Place For Drug” โดยมีนิยามว่า ไม่มีที่ยืนให้นักค้าเสพติดและชุมชนปลอดยาเสพติด ซึ่ง จ.อุดรธานี มีการปฏิบัติงานเริ่มจาก สำรวจปัญหาพื้นที่เป้าหมาย เข้าพบประสานงานผู้นำหมู่บ้าน เข้าไปควบคุมพื้น ตรึงพื้น เอกซเรย์พื้นที่ และมีการทำลายโครงสร้าง โดยการปฏิบัติการเชิงรุก ตัดวงจรปัจจัยเสี่ยง ต่อไปเป็นการชำระ สะสาง ติดตามจับกุมนักค้า หยุดยั้งพฤติกรรม และตามยึดทรัพย์ สุดท้ายคือการสร้างพลังชุมชน พบปะเยี่ยมเยือน และแสวงหาความร่วมมือ วันนี้จึงได้มาแถลงผลการจับกุม

พล.ต.ต.สรรธาน อินทรจักร กล่าวว่า การปฏิบัติการไล่ล่านักค้าอีสานเหนือ ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาล เริ่มปฏิบัติการตั้งแต่ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566-30 มกราคม 2567 จังหวัดอุดรธานี ได้สนธิกำลังทั้ง ปกครอง ตำรวจ ทหาร สามารถจับกุมผู้ค้ายาเสพติดได้ 75 ราย ขยายผลยึดทรัพย์ รวมมูลค่า 24 ล้านบาท คดีที่จับกุมยาเสพติดได้มากที่สุด คือ สภ.ประจักษ์ศิลปาคม จับกุมได้ยาบ้า 3 แสนกว่าเม็ด ได้ผู้ต้องหา 2 คน และคดีที่น่าสนใจที่สุดคือปาร์ตี้ยาในพลูวิลล่า ในเขตเมืองอุดรธานี ซึ่งตำรวจสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้จับกุมกลุ่มปาร์ตี้ยาได้ 23 คน แยกเป็นผู้ค้า 3 คน ซึ่ง 1 ใน 3 ของผู้ค้าอายุ 18 ปี ผู้เสพ 20 คน การจับกุมครั้งนี้ทำให้เรารู้ว่ายาเสพติดมาแบบไหน จะได้สืบสวนปราบปรามและขยายผลต่อไป

“ตำรวจยึดของกลาง Happy Water” จำนวน 46 ซอง น้ำหนัก 1408 กรัม ซึ่ง Happy water เป็นยาเสพติดที่มีส่วนผสมของ เคตามีน ไอซ์ ยาอี เมทแอมเฟตามีน ออกฤทธิ์ร้ายแรง กลุ่มวัยรุ่นเรียกว่ากินโปร หากเสพเกินขนาดทำให้เสียชีวิตได้ นอกจากนี้ยังพบ ยาเค 104.25 กรัม ยาอี 8 เม็ด รวมมูลค่า 253,964 บาท ซึ่ง Happy water เข้ามาระบาดในกลุ่มวัยรุ่น จ.อุดรธานี โดยนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน จึงจำเป็นต้องนำตัวอย่างของ “ Happy Water” ไปให้ไปให้ตำรวจผู้ปฏิบัติในแต่ละสถานีตำรวจดู เมื่อเข้าตรวจค้นสถานบริการ จะได้ทราบว่าเป็นยาเสพติดแบบใหม่”

ที่มา : https://www.esandailyonline.com/

อุดรธานีจัด “เกษตรแฟร์ 2024” จัดประกวด “กบทอดกระเทียมพริกไทย”แถมแจกพันธุ์ไม้ให้ไปปลูกที่บ้าน

ที่เวทีกลางสนามทุ่งศรีเมืองอุดรธานี นายไชยา พรหมา รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “เกษตรแฟร์ 2024 (GMS Agri & Food 2024)” ระหว่างวันที่ 26 มกราคม – 4 กุมภาพันธ์ 2567 โดยมี นายสุรศักดิ์ อักษรกุล รอง ผวจ.อุดรธานี นายวิเชียร ขาวขำ นายก อบจ.อุดรธานี, นายธนพล กองทรัพย์ไพศาล ประธานหอการค้าจังหวัดอุดรธานี พร้อมด้วยกรรมการหอการค้า หน.ส่วนราชการ ผู้นำองค์กรเอกชน จำนวนมากให้การต้อนรับ

จากนั้นนายสุรศักดิ์ฯ กล่าวต้อนรับ จากนั้น นายธนพล กองทรัพย์ไฟศาล ประธานหอการค้า ผู้จัดงานในครั้งได้กล่าวรายงานว่า ด้วยทางหอการค้าจังหวัดอุดรธานี ได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนในจังหวัดอุดรธานี ได้จัดงานครั้งนี้โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างโอกาสทางการตลาดให้กับสินค้าเกษตรคุณภาพ สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล และขับเคลื่อน ภาคเกษตร เตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการรายย่อย ในงานพืชสวนโลกในปี 2569 เผยแพร่และสร้างโอกาสให้กับเกษตรกร สามารถพัฒนาระบบตลาดสินค้าเกษตรคุณภาพรวมถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างการรับรู้ให้กับจังหวัดอุดรธานี เป็นเมืองไมซ์ซิตี้

ภายในงานประกอบด้วยกิจกรรมต่างๆ อาทิ โซนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พบกับกิจกรรมของหน่วยงาน เกษตรและสหกรณ์จังหวัด, เกษตรจังหวัด, ประมงจังหวัด, ปศุสัตว์จังหวัด, ศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ อุดรธานี รวมถึงผลิตภัณฑ์เกษตรคุณภาพสูงจาก Young Smart Farmer และพืชสมุนไพรของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี และกิจกรรมส่งเสริมอาชีพจากสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 18 อุดรธานี โซนการแสดงสินค้า และนวัตกรรมของผู้ให้การสนับสนุน โซนที่ 3 สินค้าจากของดี 4 ภาค และ Street food – Food tuck โซนวิถีคนวิถีควาย ผลิตภัณฑ์ผ้าขิดลายควาย “จากผืนนา สู่ผืนผ้า” ภูษาขิดกาษรอุดรธานี สินค้าของที่ระลึก

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมภายในงานตลอด 10 วัน อาทิเช่น กิจกรรมการรีดเส้นจากวดพลาสติก, ตู้หยอดเหรียญอัตโนมัติ, ชมการแสดงโชว์ปลาสวยงามและนิทรรศการ, Land mark พืชสวนโลก, งานประกวดกบพ่อพันธุ์ – แม่พันธุ์, การประกวดอาหารเมนูจากกบ “กบทอดกระเทียมพริกไทย” การการแข่งขันอาหาร Udonthani Beef และพบกับเชฟชื่อดัง เชฟชุมพล แจ้งไพร, แฟชั่นโชว์ผ้าไทยใส่ให้สนุก, ประกวดหนูน้อยเกษตรแฟร์, การแสดงคีตตะกวีมวยไทย, กิจกรรมการประกวดภาพถ่ายรับเงินรางวัล, กิจกรรมการประกวดเมนูเสืออุดรฟิวชั่น “เสืออุดรไม่ร้องไห้” การแสดงจากเยาวชน จากองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี และเทศบาลนครอุดรธานี, การแข่งขันกีฬา เพื่อส่งเสริมและพัฒนาการพลศึกษา สุขภาพ การกีฬา นันทนาการ กิจกรรมส่งเสริมการขาย (นาทีทอง) สินค้าอาทิ ไข่ไก่ จากธงฟ้าของกระทรวงพาณิชย์ น้ำมันพืช รวมทั้งสินค้าอุปโภค บริโภค ราคาต่ำกว่าท้องตลาดทุกวัน นอกจากนี้ในงานยังมีการแจกพันธุ์ไม้หลายชนิดให้แก่ประชาชนนำไปปลูกที่บ้านด้วย สำหรับการจัดงานเกษตรแฟร์ฯ ในครั้งนี้ ตั้งเป้าจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ถึง 300 ล้านบาท และประมาณการผู้เข้าร่วมงานตลอดระยะเวลา 10 วัน ไม่น้อยกว่า 100,000 คน

นายไชยา พรหมา รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวเปิดงานว่า จากรายงานของประธานจัดงาน แจ้งให้ทราบว่าการจัดงาน ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างโอกาสทางการตลาดให้กับสินค้าเกษตรคุณภาพ สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล และขับเคลื่อนภาคเกษตรด้วย BCG Economy Model รวมถึงเตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการรายย่อย ในงานพืชสวนโลกในปี 2569 อันถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง
หอการค้าจังหวัดอุดรธานี เป็นหน่วยงาน/ องค์กรภาคเอกชน เป็นหน่วยงานภาคเอกชน ที่มีบทบาทสำคัญยิ่งในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจ เป็นตัวแทนของภาคเอกชนในการร่วมมือกับภาครัฐบาล ที่สะท้อนถึงโอกาสความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนที่เกิดขึ้น

ก็ขอชื่นชมยินดีกับพันธกิจที่หอการค้าจังหวัดอุดรธานี ได้ดำเนินการทั้งในด้านส่งเสริมความสามารถในการแข่งขัน และโอกาสทางการค้าและบริการ ให้กับผู้ประกอบการ ในทุกภาคส่วน ด้วยข้อมูล นวัตกรรม และมาตรฐานในการดำเนินธุรกิจ รวมทั้งการสร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านการเกษตรกับองค์กรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งต่อหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนที่ร่วมจัดงาน รวมทั้งเป็นประโยชน์ต่อสังคม ชุมชน และที่สำคัญ คือ เป็นประโยชน์ต่อตัวของเกษตรกรโดยตรง ที่จะได้เรียนรู้และรับทราบข้อมูล ข่าวสารการพัฒนาเทคโนโลยีการเกษตรที่ทันสมัย สามารถนำองค์ความรู้ ต่าง ๆ ไปพัฒนาระบบการผลิตให้ดีมีมาตรฐาน ทำให้ผลผลิตมีคุณภาพ มีความปลอดภัย สามารถพัฒนาไปสู่การเป็นSmart Agriculture เป็นที่ยอมรับของตลาด และประชาคมโลก ขณะเดียวกันก็ส่งผลให้เกษตรกร มีคุณภาพชีวิต และฐานะทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น

ที่มา : https://www.esandailyonline.com/

อุดรธานี – ตามรวบ ‘แก๊งฟันน้ำนม’ ปาร์ตี้ยา-ปาโป่งในบ้านครูก่อนยกเค้า หัวโจกวัยเพียง 15 สารภาพคึกคะนอง

This post is sponsored by our partners at eastwatches.me who offer the best Rolex watches.Rolex watches online from affordable to super clones.

rolexreplicaexpert website sells the best replica watches worldwide, and you can get top quality fake Rolex at a cheaper price.

The best replica Rolex watches site in the world only sells the top quality AAA swiss replica watches.

rolex replica

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 17 มกราคม ที่ห้องปฏิบัติการสืบสวนสอบสวนชุด “พิรุณ” สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.นิธิศ รอดคลองตัน รอง ผกก.สส.พ.ต.ท.บรรจง พาโคตร สว.สส.พร้อมด้วยตำรวจสืบสวน ชุด “พิรุณ” ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมเยาวชนชาย อายุระหว่าง 8-15 ปี ประกอบด้วย นายเพิก นามสมมุติ อายุ 15 ปี หัวหน้าแก๊ง ด.ช.เอ อายุ 14 ปี ด.ช.บี อายุ 12 ปี ด.ช.ซี อายุ 11 ปี และด.ช.ดี อายุ 8 ขวบ ทั้งหมดเป็นราษฎรชาวบ้านหนองตูม ม.2 ต.บ้านจั่น อ.เมืองอุดรธานี ในข้อกล่าวหา “ร่วมกันลักทรัพย์ ในเคหะสถาน” ส่วนนายเพิก หัวหน้าแก๊ง ตำรวจแจ้งข้อหาเพิ่ม คือ “เสพย์เสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย” พร้อมของกลาง รถ จยย.ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟิโน่ สีฟ้า 1 คัน รถจักรยานเสือภูเขา สีเหลือง 1 คัน ฟิวเจอร์บอร์ดสำหรับใช้เล่นเกมส์ปาลูกโป่ง จำนวน 1 ชุด เสื้อผ้าของ นายเพิกฯ หัวหน้าแก๊งที่ถอดทิ้งไว้ในบ้านของผู้เสียหาย 1 ชุด พร้อมด้วยกระเป๋าสะพายสีดำข้างในมีไฟเช็ก กรรไกร มีดพับ มีดคัทเตอร์ อุปกรณ์การเสพยาบ้า และหลอดยาดม เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 535 ม.2 บ.หนองตูม ต.บ้านจั่น อ.เมืองอุดรธานี โดยมีนายวุฒินันท์ สมปิตตะ อายุ 42 ปี ครูผู้เสียหายเจ้าของบ้าน และน.ส.จุฑาทิพย์ พึ่งสว่าง อายุ 44 ปี ภรรยา ร่วมงานแถลงข่าวในการจับกุมครั้งนี้ด้วย

ทั้งนี้สืบเนื่องจากช่วงเย็นวันที่ 15 ม.ค.ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้ไปตรวจสอบเหตุคนร้ายงัดบ้านเลขที่ 535 ม.2 บ.หนองตูม ต.บ้านจั่น อ.เมืองอุดรธานี รื้อค้นข้าวของกระจัดกระจาย มีทรัพย์สินเสียหายและสูญหายหลายรายการ รวมมูลค่าประมาณ 1 แสนบาท แถมคนร้ายยังจัดปาตี้ยา ร้องคาราโอเกะและเป่าลูกโป่ง เพื่อเลนเกมส์ปาโป่งกัน และที่สำคัญรูปภาพแต่งงานเจ้าของบ้านขนาดใหญ่ ถูกคนร้ายทำลายเสียหาย ก่อนหลบหนีไปพร้อมทรัพย์สินภายในบ้าน จากการตรวจสอบตำรวจเชื่อว่า คนร้ายมีมากกว่า 2 คน และน่าจะเป็นเยาวชนในหมู่บ้าน เนื่องจากบ้านหลังเกิดเหตุไม่มีคนนอนเฝ้ามาประมาณ 2 สัปดาห์ และจากการสืบทราบและติดตามจับกุมคนร้ายได้ยกแก๊งที่บ้านพัก พร้อมทรัพย์สินของกลางบางส่วน มาสอบสวนที่ สภ.เมืองอุดรธานี

จากการสอบสวนนายเพิก หัวหน้าแก๊งให้การรับสารภาพว่าเป็นหัวหน้าแก๊ง เห็นบ้านหลังนี้ไม่มีคนอยู่หลายวัน เช้าวันอาทิตย์ที่ 14 ม.ค.จึงชวนน้องๆในหมู่บ้านรวมทั้งหมด 5 คน โดยตนเป็นคนใช้ฆ้อนงัดประตูหลังบ้าน ก่อนพากันเข้าไปรื้อค้นขโมยทรัพย์สิน ต่อเครื่องเสียงร้องเพลงคาราโอเกะ และเล่นปาลูกโป่งกันภายในห้องรับแขก แล้วให้น้องๆ ช่วยกันขนทรัพย์สินออกไปทางรั้วหลังบ้าน ไปเก็บไว้ที่บ้านของตนที่อยู่ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 500 เมตร เพื่อนำไปขายและได้นำไปขายบางส่วนได้แล้ว

“วันเกิดเหตุตนหลบไปเสพยาบ้า จำนวน 3 เม็ด ภายในห้องนอนของเจ้าของบ้าน จากนั้นได้ใช้กำปั้นชกรูปแต่งงานเจ้าของบ้านฉีกขาดเสียหาย ที่ทำไปไม่ได้โกรธแค้นเจ้าของบ้าน แต่ทำไปด้วยความคึกคะนองเท่านั้น โดยพากันหลบหนีออกจากบ้านไปช่วงค่ำวันเดียวกัน ส่วนยาบ้าตนซื้อมาจากเพื่อนที่คุ้มผาสุก ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี ในราคาเม็ดละ 50 บาท และอยากกราบขอโทษครูผู้เสียหาย และสัญญาว่าจะเลิกเสพยาและงัดบ้านคนอื่นอีกแล้ว”

จากนั้นนายเพิก หัวหน้าแก๊งฟันน้ำนม ก้มลงกราบขอโทษครูและภรรยาเจ้าของบ้าน ซึ่งก็ให้อภัย พร้อมกับให้โอวาทกลับตัวกลับใจยังไม่สาย เพราะยังเป็นเด็กเยาวชนอยู่

นายวุฒินันท์  ครูผู้เสียหาย เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุตนมั่นใจว่าตำรวจคงติดตามจับคนร้ายได้อย่างแน่นอน และเมื่อคืนที่ผ่านมา ตนได้รับแจ้งจากชุดสืบสวนพิรุณ สภ.เมืองอุดรธานี ว่าสามารถติดตามกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุได้ทั้งหมดแล้ว พร้อมของกลางที่ขโมยไปบางส่วน ทีแรกนึกว่าคนร้ายเป็นผู้ใหญ่ติดยา แต่พอรู้ว่าเป็นเยาวชนอายุ 8-15 ปี ก็รู้สึกหดหู่ใจ ในฐานะตนเป็นครู ก็ให้อภัยเมื่อเขาสำนึกผิด และสัญญากับตนและภรรยาว่าจะไม่ทำอย่างนี้อีกแล้ว และฝากถึงครูที่สอนเด็กที่ก่อเหตุ และผู้ปกครอง ให้มั่นดูแลเอาใจใส่ หรือเข้มงวดกับบุตรหลานให้มากกว่านี้

นางน้อย นามสมมุติ อายุ 56 ปี ยายนายเพิก กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนเลี้ยงแม่ของน้องเพิกมาตั้งแต่เล็ก และเป็นหลานสามีเก่า เลี้ยงเป็นลูกจนแต่งงานมีครอบครัว และมีน้องเพิกออกมา ตนก็ยังได้มาเลี้ยงน้องเพิกต่ออีก ส่วนพ่อกับแม่ของเพิก ก็แยกทางกันตั้งแต่น้องเพิกฯยังเล็กน้องเพิกจึงอยู่กับตน ปกติน้องเพิก ก็จะมีพฤติกรรมแบบนี้ สิ่งของที่อยู่ในบ้านก็จะขโมยเอาไปขาย เงินที่ตนไปขายของที่ตลาดกลับมาบ้าน น้องเพิกก็จะมารื้อค้นเอาไปซื้อยาบ้ามาเสพ ซึ่งน้องเพิกติดเสพยาบ้ามาประมาณ 2 ปี ตนก็เคยสั่งสอนบอกอยู่ว่า มีบ้านให้อยู่ มีข้าวให้กิน สิ่งของที่อยู่ในบ้านทำไมไม่รักษาเอาไว้ และเป็นคนดีได้เพียง 3 วัน ก็กลับมาทำพฤติกรรมแบบเดิมอีก

นางน้อย กล่าวต่อไปว่าหลังทราบข่าวว่าน้องเพิกพาน้องๆในหมู่บ้านไปงัดบ้านครูตนก็รู้สึกเสียใจ และอยากขอโทษที่ดูแลสั่งสอนเขาไม่ได้ดี เพราะต้องทำมาหากินไปขายของทุกวัน เพื่อหาเลี้ยงดูเขาเราไม่ใช่คนรวย เป็นคนหาเช้ากินค่ำ อยากบอกน้องเพิกว่าให้กลับตัวเป็นคนดีของสังคมแต่ว่าสิ่งแวดล้อมมันนำพาไปกระทำผิด และติดเสพยาบ้า หากไม่ได้เสพเขาก็มีอาการหงุดหงิด ต่อไปตนก็จะพยายามดูแลหลานชายให้ดีที่สุด

แหล่งข่าว : https://www.esandailyonline.com/

หอการค้าอุดรฯ จับมือ ธนาคารออมสิน MOU ต่อเนื่องปีที่ 4 ส่งเสริมศักยภาพ

หอการค้าอุดรฯ จับมือ ธนาคารออมสิน MOU ต่อเนื่องปีที่ 4 ส่งเสริมศักยภาพ จัดหาสิทธิประโยชน์ สนับสนุนข้อมูลและบริการด้านสินเชื่อให้กับสมาชิกหอการค้าและผู้ประกอบการ

วันที่ 23พ.ย.66 เวลา 09.30 น. หอการค้าจังหวัดอุดรธานี ร่วมกับ ธนาคารออมสิน จัดให้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ในการร่วมกันส่งเสริมศักยภาพ เพิ่มขีดความสามารถให้กับสมาชิกและผู้ประกอบการ โดยมี นายธนพล กองทรัพย์ไพศาล ประธานหอการค้าจังหวัดอุดรธานี นายสุชาติ เจริญธรรม ผู้อำนวยการธนาคารออมสินภาค 10 ร่วมกันลงนาม มี นายอัครวัฒน์ ปุณณะนิธินนทน์ รองประธานหอการค้าจังหวัดอุดรธานี นายสรายุทธ์ คงประสานกาล เลขาธิการหอการค้าจังหวัดอุดรธานี และคณะผู้บริหารธนาคารออมสิน ร่วมเป็นสักขีพยาน มีคณะกรรมการหอการค้า สื่อมวลชน ร่วมงาน ที่ห้องประชุมชั้น 2 หอการค้าจังหวัดอุดรธานี

โครงการส่งเสริมและสนับสนุนศักยภาพสมาชิกหอการค้า เป็นความร่วมมือระหว่างธนาคารออมสิน กับ หอการค้าจังหวัดอุดรธานี โดยเริ่มดำเนินการครั้งแรกในปี พ.ศ. 2561 กิจกรรมในวันนี้ เป็นการต่ออายุบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างหอการค้าจังหวัดอุดรธานี และธนาคารออมสิน ครั้งที่ 4 มีวัตถุประสงค์ร่วมกันในการส่งเสริมศักยภาพของผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิกหอการค้า รวมทั้งผู้ประกอบการที่เป็นลูกค้าของธนาคาร การเสริมสร้างขีดความสามารถรวมไปถึงจัดหาสิทธิประโยชน์ สนับสนุนการดำเนินธุรกิจ ข้อมูลและบริการด้านสินเชื่อประเภทต่างๆ โดยที่ผ่านมาธนาคารออมสิน ได้ร่วมกับหอการค้า สนับสนุนการให้ความช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการ โดยเฉพาะกลุ่ม SMEs และธุรกิจร้านอาหารเพื่อให้สินเชื่อสิทธิพิเศษต่างๆ ปัจจุบันธนาคารออมสินได้ออก Promotion พิเศษสำหรับหน่วยงานพันธมิตร สมาชิกหอการค้า ภายใต้โครงการสินเชื่อ “GSB Smooth biz” วงเงินกู้สูงสุด 20.00 ล้านบาทต่อราย วัตถุประสงค์ เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ เพื่อลงทุนในสินทรัพย์ถาวร เพื่อชำระหนี้สถาบันการเงินอื่น (Refinance) กรณีเงินทุนหมุนเวียน หลักทรัพย์ค้ำประกันเต็มวงเงินปีที่ 1-2 อัตราดอกเบี้ย MOR-1.50% ต่อปี, ปีที่ 3 เป็นต้นไป MOR+0.25% ต่อปี หรือ กรณีสินเชื่อระยะยาว หลักทรัพย์ค้ำประกันเต็มวงเงิน อัตราดอกเบี้ย ปีที่ 1-2 MLR-1.50% ต่อปี, ปีที่ 3 เป็นต้นไป MLR+0.25 ต่อปี ซึ่งหากสมาชิกท่านใดสนใจ สามารถติดต่อธนาคารออมสินได้ทุกสาขา

เจ้าของตู้หยอดเหรียญ “สุดแค้น” ถูกมิจฉาชีพใช้แบ๊งก์กาโม่หยอดตู้

เจ้าของร้านขายของชำช้ำใจ โดนลูกค้าแสบ เอาแบงค์กาโม่ 4 ใบ มาเติมเงิน

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 23 พฤศจิกายน นางบัวพันธ์ สมสุด อายุ 61ปี เจ้าของร้านขายของชำ เลขที่121/14 ถนนโพนพิสัย ตำบลหมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี เข้าแจ้งความกับร.ต.อ.สรวิศิษฏ์ มีเพียร รองสารวัตร สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ว่าถูกลูกค้า นำแบงค์กาโม่ หรือแบงค์ของเล่นรูปการ์ตูน จำนวน 4 ใบ มาหย่อนเติมเงิน เข้าโทรศัพท์ หรือเติมเข้าวอลเล็ต เมื่อคืนนี้ ทำให้ตนเองเดือนร้อนเสียเงินไป 200 บาท

จากนั้นนางบัวพันธ์ฯ ได้ทำการสาธิตเอาแบงค์กาโม่ ทำการเติมเงินเข้าไปในตู้เติมเงิน ก็สามารถเติมเงินได้ พร้อมให้การว่า ตนได้นำตู้เติมเงินสีส้มเขียว มาตั้งให้บริการอยู่ที่หน้าร้าน มาเป็นเวลา 6 ปี ก่อนหน้านี้ตู้เติมเงินก็เคยโดนงัด โดยทุก 2 วัน ตนจะเปิดตู้เติมเงิน เพื่อเอาเงินออกจากตู้ ก่อนที่จะเติมเงินเข้าไปในตู้ ครั้งละ1,000 บาท เมื่อเช้ามาเปิดตู้พบว่า มีแบงค์กาโม่ ใบละ 50 จำนวน 4 ใบ แล้วทำการเช็ดตู้เติมเงิน ทราบว่า เมื่อคืนนี้ช่วงเวลา 20.00 น. มีลูกค้ามาใช้บริการเติมเงินที่ตู้จำนวน 2 ราย ทำให้ตกใจเพราะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลยแบบนี้ ทำไมตู้เติมเงินถึงรับเอาแบงค์ปลอมได้

“ก็อยากฝากถึงคนที่ทำด้วยทำให้คนอื่นได้รับความเดือดร้อนกว่าจะได้เงินกำไรแต่ละบาท เช่น50 บาท จะได้กำไรเพียงเพียงแค่ 3 บาท หลังจากทดลองเข้าแบงค์กาโม่ ลองเติมเงินที่ตู้ปรากฏกว่าสามารถเติมเงินได้ ซึ่งจะหยุดให้บริการตู้เติมเงิน เสียก่อน โดยโทรแจ้งบริษัท ของตู้เติมเงิน มาทำการแก้ไขเสียก่อน แล้วต่อไปก็อาจจะติดตั้งกล้องวงจรปิด เอาไว้ที่บริเวณหน้าร้าน เพื่อจะได้ทราบตัวลูกค้าแสบเป็นใคร”

ที่มา: https://www.esandailyonline.com/

อุดรธานี – “พ่อเลี้ยงเดี่ยว” วิ่งราวต้นกฐินร้านส้มตำ อ้างหาเงินซื้อนมให้ลูก

ตำรวจอุดร ตามจับโจรบาปวิ่งราวต้นกฐินแม่ค้าส้มตำ ร่ำไห้ยกมือไหว้ขอโทษสังคมอ้างตกงานนำไปซื้อนมลูก

พ.ต.ท.บรรจง พาโคตร สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี ร.ต.อ.บรรเทิง ทัพโยธา รอง สว.สส.ฯ พร้อมด้วยชุดสืบสวน เข้าจับกุมนายวรวิทย์ คุณทวี หรือโดโด้ อายุ 27 ปี บ้านเลขที่ 404 ม.1 บ้านสามพร้าว ต.สามพร้าว อ.เมืองอุดรธานี ที่หน้าบ้านพัก พร้อมด้วยของกลางรถ จักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 ไอ สีแดง ทะเบียน 1กฮ 149 อุดรธานี ที่ใช้ก่อเหตุ และหลักฐานจากภาพจากกล้องวงจรปิด บริเวณหน้าบ้านเรือนประชาชน ในชุมชนหนองเหล็ก และกล้องวงจรปิดของเทศบาลนครอุดรธานี ที่สามารถบันทึกตำหนิรูปพรรณคนร้าย และยานพาหนะได้อย่างชัดเจน ขณะขี่รถหลบหนี ควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.เมืองอุดรธานี

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อเวลา 17.20 น.วันที่ 14 พ.ย.2566 พ.ต.ต.วัฒพงษ์ จำนงอุดม สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายใช้รถ จักรยานยนต์วิ่งราวต้นกฐินสามัคคีที่เพิงขายส้มตำและไก่ปิ้งของ น.ส.เนาวรัตน์ ศักรบุตร อายุ 41 ปี ตั้งอยู่ริมถนนในซอยหนองเหล็ก ตรงข้ามแฟลตตำรวจรถไฟ ชุมชนหนองเหล็ก เขตเทศบาลนครอุดรธานี ไปต่อหน้าต่อตา น.ส.เนาวรัตน์ ขณะที่กำลังขายส้มตำให้ลูกค้าอยู่ แล้วคนร้ายขับรถหลบหนีไปพร้อมต้นกฐิน และต่อมา ตำรวจก็ออกสืบสวนติดตามตัวคนร้าย จนได้สืบทราบคนร้ายรายนี้คือนายวรวิทย์ ดังกล่าว จึงได้เข้าทำการจับกุมได้ในตอนกลางดึกที่บ้านพักดังกล่าว

จากการสอบสวน นายวรวิทย์ หรือโดโด้ ให้การรับสารภาพทั้งน้ำตาว่า เป็นคนก่อเหตุจริง เพราะจำนนด้วยหลักฐาน และให้การต่อไปว่าปัจจุบันตนมีอาชีพรับจ้างทั่วไป และตกงานมา 4-5 เดือน เพราะลาออกจากงานโรงผลิตน้ำดื่มในพื้นที่ อ.พิบูลย์รักษ์ จ.อุดรธานี มาทำงานก่อสร้าง แต่ช่วงนี้ไม่มีงาน ที่ตนทำไปในครั้งนี้เนื่องจากตนไม่มีเงินซื้อข้าวสาร และนมข้นให้ลูกชาย 2 คน ที่อายุ 4 ขวบ และ 5 ขวบ ซึ่งเป็นลูกติดภรรยา แต่ตนเลี้ยงมาตั้งแต่ยังแบเบาะ และรักเขาเหมือนลูกในไส้

นายวรวิทย์ ให้การสารภาพอีกว่า ก่อนก่อเหตุได้ขับรถ จักรยานยนต์ของแม่ยาย ออกมาจากบ้าน เข้ามาในตัวเมืองอุดรธานี เห็นต้นเงินกฐินของแม่ค้าส้มตำ จึงอยากได้ และก่อเหตุอุ้มต้นเงินกฐิน ซิ่งรถหลบหนี ไปขึ้นสะพานข้ามคลองเลียบทางรถไฟ ท้ายซอยหนองเหล็ก 4 และไปถอดและแกะเอาเงินต้นกฐิน นับได้ 280 บาท มีธนบัตร 100 บาท 1 ใบ นอกนั้นเป็นธนบัตร 20 บาท ก่อนถึงโรงเรียนอุดรบอสโกวิทยา ที่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 3 กิโลเมตร ก่อนมาถูกตำรวจตามมาจับกุมตัวที่บ้าน หลังกลับจากรับจ้างเกี่ยวข้าว

“ตนไม่อยากทำเลย แต่ที่บ้านไม่มีขาวสารหุงและนึ่งกินเลยสักเม็ดเดียว และอยากขอโทษผู้เสียหาย และสังคมผ่านสื่อ และขอชดใช้กรรมในสิ่งที่ตนเองก่อเอาไว้ รู้ว่ามันเป็นบาปกรรมหนัก ที่ไปขโมยต้นเงินกฐิน และวันนี้ตนไปรับจ้างเกี่ยวข้าวได้เงินมา 400 บาท นำไปซื้อข้าวสาร และนมข้นให้ลูกชายทั้ง 2 คนได้กิน และนำไปซื้อยาบ้าจากวัยรุ่นในหมู่บ้าน 1 เม็ด ราคา 40 บาท มาเสพ และติดเสพมาตั้งแต่เรียนอยู่ชั้น ม.3 เคนถูกจับเสพมา 2 ครั้ง ปัจจุบันนานๆจะเสพสักครั้ง เพื่อแก้เหนื่อย หากมีเงินซื้อมากก็จะเสพมากเป็นธรรมดา และเมื่อพ้นโทษออกมาตนขอสัญญาว่า จะเลิกเสพยา และไม่ก่อเหตุแบบนี้แล้ว

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวนายวรวิทย์ ไปทำการตรวจปัสสาวะพบมีผลเป็นบวก จากการเสพยาเสพติด ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ลักทรัพย์ผู้อื่น โดยใช้ยานพาหนะในการพาทรัพย์นั้นหลบหนี และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย” ควบคุมตัว ส่ง พ.ต.ต.วัฒพงศ์ จำนงอุดม สว.สอบสวน เจ้าของคดีนำไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ที่มา: https://www.esandailyonline.com/

อุดรธานี – โรงเรียนห้วยเกิ้งวิทยาคาร จัดวิ่ง HUAYKOENG RUN FOR DOME MINI MARATHON 2023 เพื่อหารายได้สร้างโดม และส่งเสริมการท่องเที่ยวท้องถิ่น

โรงเรียนห้วยเกิ้งวิทยาคาร จัดวิ่ง Huaykoeng Run For Dome Mini Marathon 2023 เพื่อหารายได้สร้างโดม และส่งเสริมการท่องเที่ยวท้องถิ่น

ที่โรงเรียนห้วยเกิ้งวิทยคาร ต.ห้วยเกิ้ง อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ว่าที่ร้อยเอกภัทรนิธิ์ ภักดีพันดอน ผู้อำนวยการโรงเรียนห้วยเกิ้งวิทยาคาร เผยว่า ทางคณะครูโรงเรียนห้วยเกิ้งพิทยาคาร ร่วมกับคณะกรรมการสถานศึกษา ชมรมศิษย์เก่า และผู้ปกครองได้จัดการแข่งขันวิ่งรายการ Huaykoeng Run For Dome Mini Marathon 2023  วัตถุประสงค์ เพื่อนำเงินรายได้ สมทบทุนสร้างโดมของโรงเรียนเพื่อใช้ในกิจกรรมต่างๆ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวของตำบลห้วยเกิ้ง และกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมให้ประชาชน และคนในชุมชน รักการออกกำลังกาย ซึ่งเป็นการสนองนโยบายการเป็นเมืองกีฬาของจังหวัดอุดรธานี Sport City โดยจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 17 ธันวาคม 2566

การแข่งขัน แบ่งออกเป็น 2 ระยะทาง 10 km. และ 5 km. ผู้สมัครจะได้รับเสื้อและเหรียญที่ระลึกทุกท่าน ระยะทาง 10 km. ค่าสมัคร 500 บาท รางวัล Over All ชาย/หญิง 1-3 รับถ้วยพร้อมเงินรางวัล 2,000 บาท 1000 บาท700 บาท ถ้วยรางวัลรุ่นอายุ 1-7 ชาย/หญิง รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี อายุ 20-29 ปี อายุ 30-39ปี อายุ 40-49 ปี อายุ 50-59 ปี และอายุ 60 ปีขึ้นไป

ระยะทาง 5 km. ค่าสมัคร 400 บาท รางวัล Over All ชาย/หญิง 1-3 รับถ้วยพร้อมเงินรางวัล 1,000 บาท 700 บาท500 บาท ถ้วยรางวัล 1-5 ชาย/หญิง รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี อายุ 20-29 ปี อายุ 30-39 ปี อายุ 40-49 ปี อายุ 50-59 ปี อายุ และอายุ 60 ปีขึ้นไป VIP ค่าสมัคร 1000 บาท รับเสื้อและเหรียญที่ระลึกวิ่งได้ทุกระยะ แฟนซี วิ่งระยะใดก็ได้ถ้วยรางวัล 1-5 ผู้ประสงค์ซื้อเฉพาะเสื้อเพื่อร่วมทำบุญ ตัวละ 300 บาท

สมัครได้ที่ https://forms.gle/xGUPXkbadHBCorHc7    หรือติดต่อสอบถามผู้จัดงาน ครูอดิศักดิ์ กรีเทพ โทร.081-9650601 ครูพงษ์ทัศน์ นวลศรี โทร.081-8965702 ครูสามารถ สายืน โทร.089-5774241 ครูพันธุ์ลภ สืบกินนร โทร.098-1810548 ครูปิยะวัฒน์ อุ้ยปะโค โทร.099-4935466 และ TK SPORT โทร.065-749-5550

อุดรธานี – แรงงานไทย ‘วีดีโอคอล’ เล่านาทีสู้กับกองกำลังฮามาสด้วยมือเปล่า รอดจากถูกปาดคอแต่เจ็บสาหัส

จากกรณีเช้ามืดวันที่ 7 ตุลาคม กองกำลังติดอาวุธฮามาส บุกโจมตีอิสราเอล ทั้งบนอากาศและภาคพื้นดิน มีกองกำลับติดอาวุธบุกเข้ามาสังหารในฉวนกาซา ทำให้มีพลเมืองผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตนับพันราย รวมทั้งแรงงานไทยที่ไปขุดทองในอิสราเอล ทั้งได้รับบาดเจ็บ เสียชีวิต ถูกจับเป็นตัวประกัน และหายสาบสูญ ซึ่งเป็นแรงงานชาวอุดรธานีเสียชีวิต 7 ราย แต่มีข่าวดีว่าทหารอิสราเอลเข้ายึดพื้นที่คืน ช่วยผู้บาดเจ็บและตัวประกัน ซึ่งจะและแรงงานลอตแรกบินกลับถึงประเทศไทยแล้ว 15 คน

เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 12 ตุลาคม ที่บ้านเลขที่ 169 หมู่ 2 บ้านสระคุ ต.หนองหัวคู อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นบ้านของนายวิทวัส กุลวงศ์ หรือแจ็ค อายุ 34 ปี แรงงานไทยในอิสราเอล ซึ่งรอดชีวิตจากการถูกปาดคอ แต่ได้รับบาดเจ็บสาหัส และครอบครัวติดต่อได้แล้ว ซึ่งได้พบกับ น.ส.วาสนา พิมพ์สุวรรณ อายุ 27 ปี และด.ญ.กัลยรัตน์ กุลวงศ์ อายุ 5 ขวบ ภรรยาและลูกสาวนายวิทวัส นั่งอยู่หน้าบ้าน โดยมีญาติและเพื่อนบ้านมาถามไถ่เรื่องราวและแสดงความยินดี โดยมีนายวิทวัส หรือแจ็ค วีดีโอคอลมาพูดคุย

นายวิทวัส ได้เล่าให้ฟังว่า ขณะกำลังเดินอยู่ในฟาร์ม เพื่อตรวจดูว่ามีไก่งวงตายหรือไม่ ก็มีการยิงเข้ามา และมีกองกำลังติดอาวุธเข้ามาในฟาร์ม จึงเข้าไปหลบซ่อนตัว 2-3 ชม. เมื่อกองกำลังออกไปแล้ว จึงได้ออกมาจากที่ซ่อน เข้ามาในฟาร์ม ได้มีกองกำลังเข้ามาอีก และมาพบตน ซึ่งกองกำลังได้ใช้มีดพยายามฆ่าปาดคอตน แต่ตนได้ยึดสู้กันประมาณ 1 ชม. ตนถูกแทงคอ หลัง และหน้าผาก เลือดไหลออกมาก จนตนหมดสติ เขาคงคิดว่าตนตายแล้ว จึงเอาโทรศัพท์ตนไปด้วย ประมาณ 1 ชั่วโมงตนฟื้นขึ้นมา จึงเดินกลับไปที่แคมป์คนงาน เพื่อนคนงาน นายจ้างแจ้งทหารอิสราเอลนำตนส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล 3 วัน ออกจาก รพ.จึงติดต่อกลับมาหาภรรยาและลูก ซึ่งถือว่าตนโชคดีที่รอดชีวิตไม่อยากอยู่แล้ว อยากจะกลับบ้านและไม่ขอกลับมาที่อิสราเอลอีก

ส่วน น.ส.วาสนา กล่าวว่า ได้แต่งงานอยู่กินกับนายวิทวัส มีลูกด้วยกัน 1 คน นายวิทวัส เดินทางไปทำงานเกษตร ที่ฉนวนกาซา ประเทศอิสราเอล สัญญา 5 ปี 3 เดือน ทำงานได้ 4 ปี ไม่กลับมาพัก ได้เงินเดือน 4-5 หมื่นบาท โดยยืมเงินจากนายทุนนอกระบบ 1 แสนบาท โดยจัดหางานเป็นคนส่งไปถูกต้องตามกฎหมาย โดย 2 ปีแรกทำงานในสวนมะเขือเทศ 2 ปีหลังทำงานในฟาร์มไก่งวง จะส่งเงินกลับมาให้ตนซื้อรถปิกอัพ 1 คัน และซื้ออุปกรณ์เตรียมสร้างบ้านไว้แล้ว

ก่อนเกิดเหตุเป็นวันเสาร์ที่ 7 ตุลาคม ซึ่งจะเป็นวันหยุดของสามี แต่สามีจะขับรถไถออกจากแคมป์ที่พัก ไปที่ฟาร์มไก่ เพื่อเก็บไก่ที่ตายออกมา ขณะเดินอยู่ในฟาร์มไก่ และไลฟ์สดในเฟซบุกให้ตนดูด้วย ต่อมาฝั่งปาเลสไตน์ก็มีการยิงข้ามมา ซึ่งสามีก็บอกว่ามีการยิงกันแล้ว แต่ครั้งนี้ยิงหนักมาก แถมมีกองกำลังติดอาวุธเข้ามาในฟาร์มด้วย ซึ่งสามีก็ไปหลบซ่อนตัว 2-3 ชม.และห้ามตนโทรไปหา เพราะเกรงว่ากลุ่มฮามาสจะได้ยิน ตนก็ไม่โทร แต่พอได้ดูคลิปยิงแรงงานไทยตายในแคมป์ ก็ยิ่งห่วงสามีมากขึ้น แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ตนก็พยายามทักแชทกับเพื่อนร่วมงานสามี เย็นวันเดียวกันก็ทักแชทเพื่อนร่วมงานได้ เพื่อนบอกว่าสามีตนอยู่ในห้อง บาดเจ็บเล็กน้อย นายจ้างติดต่อทหารอิสราเอลมารับไปส่งโรงพยาบาลแล้ว

น.ส.วาสนา กล่าวต่อไปอีกว่า หลังทราบว่าสามีได้รับบาดเจ็บ รักษาตัวอยู่โรงพยาบาลแล้ว ตนก็รู้สึกดีใจ แต่ไม่สามารถติดต่อกับสามีได้ ก็ได้แชทสอบถามอาการกับเพื่อนคนงาน ส่วนตนและครอบครัวก็ไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกที่เพื่อให้สามีปลอดภัย สามีออกจากที่โรงพยาบาลวันที่ 11 ตุลาคม ลูกชายนายจ้างได้ให้ใช้โทรศัพท์วีดีโอคอลมาหาตน และได้พูดคุยกัน ก็รู้สึกดีใจ แต่พอเพื่อสามีส่งภาพตอนสามีโดนแทงได้รับบาดเจ็บมาให้ดู ตนถึงกับร้องไห้ มันน่ากลัวมาก สามีรอดชีวิตมาได้อย่างไร สามีกลับมาบ้านแล้ว ก็จะไม่ให้กลับไปอีก