ศรีสะเกษ “ระทึก” เจดีย์วัดล้านขวดพังถล่มกลางดึก พระเณรรอดหวุดหวิด

High-quality fake watch at low prices! Welcome to our website swissmade

Fake rolex Daytona replica watches vs real, best the Replica Rolex Daytona for sale with a cheap price.

Our replica patek philippe are fake of the original and made with the highest quality components and materials.

เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2567 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ศาลาภายในวัดล้านขวด ตำบลสิ อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของอำเภอขุนหาญ และของจังหวัดศรีสะเกษ ได้เกิดพังถล่มลงมาทั้งหลัง จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงได้พบกับ พระไวพจน์ ธรรมะปาโร รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดล้านขวด ได้พาผู้สื่อข่าวดูสภาพความเสียหายของศาลาที่กำลังก่อสร้างเป็นเจดีย์ ประดับประดาด้วยขวดแก้วนับแสนนับล้านขวด แต่เกิดพังทลายลงมา โชคดีที่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

พระไวพจน์ ธรรมะปาโร รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดล้านขวด เล่าว่า ศาลาหลังนี้จะสร้างเป็นเจดีย์บรรจุอัฐิธาตุ และอัฐบริขาร พระครูวิเวก ธรรมาจารย์ หรือ หลวงปู่ลอด อดีตเจ้าอาวาสวัดล้านขวด ผู้ก่อตั้งวัดล้านขวด จนมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก โดยเจดีย์หลังดังกล่าวพังถล่มลงมาเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 03.00 น. ซึ่งขณะนั้นอาตมาได้ยินเสียงดังคล้ายอะไรถล่ม จึงพากันออกมาดูจึงเห็นว่าเจดีย์ที่กำลังก่อสร้างนั้นถล่มลงมาราบคาบ โชคดีตอนพังถล่มไม่มีใครอยู่ภายในเจดีย์ ส่วนตัวอาตมาคิดว่าสาเหตุที่ทำให้เจดีย์ถล่มลงมานั้น เนื่องจากเสามีขนาดเล็ก อาจจะรับน้ำหนักหลังคาที่ปั้นเป็นรูปเจดีย์ไม่ไหว จึงเกิดการถล่มลงมาพังเสียหาย

ทั้งนี้ เจดีย์หลังนี้พึ่งก่อสร้างได้ประมาณ 8 เดือน ด้วยงบประมาณ 500,000 บาท จากแรงศรัทธาของพ่อแม่พี่น้องที่เดินทางมาเที่ยวหรือร่วมบริจาค ก่อนที่เจดีย์จะถล่มนั้น ได้ก่อสร้างไปแล้วประมาณ 80% เหลือแต่ตกแต่งภายใน ตีฝ้าให้สวยงาม ถ้าแล้วเสร็จก็จะได้เตรียมเอาอัฐิของหลวงปู่ลอดขึ้นมาประดิษฐานไว้ แต่ก็มาถล่มเสียก่อน ถึงอย่างไรก็ตามทางวัดก็จะต้องดำเนินการรื้อถอนเจดีย์ที่ถล่มออก และเริ่มก่อสร้างขึ้นมาใหม่ให้แล้วเสร็จต่อไป.

ทีมข่าว จ.ศรีสะเกษ // รายงาน

อุดรธานี – ตามรวบ ‘แก๊งฟันน้ำนม’ ปาร์ตี้ยา-ปาโป่งในบ้านครูก่อนยกเค้า หัวโจกวัยเพียง 15 สารภาพคึกคะนอง

This post is sponsored by our partners at eastwatches.me who offer the best Rolex watches.Rolex watches online from affordable to super clones.

rolexreplicaexpert website sells the best replica watches worldwide, and you can get top quality fake Rolex at a cheaper price.

The best replica Rolex watches site in the world only sells the top quality AAA swiss replica watches.

rolex replica

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 17 มกราคม ที่ห้องปฏิบัติการสืบสวนสอบสวนชุด “พิรุณ” สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.นิธิศ รอดคลองตัน รอง ผกก.สส.พ.ต.ท.บรรจง พาโคตร สว.สส.พร้อมด้วยตำรวจสืบสวน ชุด “พิรุณ” ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมเยาวชนชาย อายุระหว่าง 8-15 ปี ประกอบด้วย นายเพิก นามสมมุติ อายุ 15 ปี หัวหน้าแก๊ง ด.ช.เอ อายุ 14 ปี ด.ช.บี อายุ 12 ปี ด.ช.ซี อายุ 11 ปี และด.ช.ดี อายุ 8 ขวบ ทั้งหมดเป็นราษฎรชาวบ้านหนองตูม ม.2 ต.บ้านจั่น อ.เมืองอุดรธานี ในข้อกล่าวหา “ร่วมกันลักทรัพย์ ในเคหะสถาน” ส่วนนายเพิก หัวหน้าแก๊ง ตำรวจแจ้งข้อหาเพิ่ม คือ “เสพย์เสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย” พร้อมของกลาง รถ จยย.ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟิโน่ สีฟ้า 1 คัน รถจักรยานเสือภูเขา สีเหลือง 1 คัน ฟิวเจอร์บอร์ดสำหรับใช้เล่นเกมส์ปาลูกโป่ง จำนวน 1 ชุด เสื้อผ้าของ นายเพิกฯ หัวหน้าแก๊งที่ถอดทิ้งไว้ในบ้านของผู้เสียหาย 1 ชุด พร้อมด้วยกระเป๋าสะพายสีดำข้างในมีไฟเช็ก กรรไกร มีดพับ มีดคัทเตอร์ อุปกรณ์การเสพยาบ้า และหลอดยาดม เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 535 ม.2 บ.หนองตูม ต.บ้านจั่น อ.เมืองอุดรธานี โดยมีนายวุฒินันท์ สมปิตตะ อายุ 42 ปี ครูผู้เสียหายเจ้าของบ้าน และน.ส.จุฑาทิพย์ พึ่งสว่าง อายุ 44 ปี ภรรยา ร่วมงานแถลงข่าวในการจับกุมครั้งนี้ด้วย

ทั้งนี้สืบเนื่องจากช่วงเย็นวันที่ 15 ม.ค.ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้ไปตรวจสอบเหตุคนร้ายงัดบ้านเลขที่ 535 ม.2 บ.หนองตูม ต.บ้านจั่น อ.เมืองอุดรธานี รื้อค้นข้าวของกระจัดกระจาย มีทรัพย์สินเสียหายและสูญหายหลายรายการ รวมมูลค่าประมาณ 1 แสนบาท แถมคนร้ายยังจัดปาตี้ยา ร้องคาราโอเกะและเป่าลูกโป่ง เพื่อเลนเกมส์ปาโป่งกัน และที่สำคัญรูปภาพแต่งงานเจ้าของบ้านขนาดใหญ่ ถูกคนร้ายทำลายเสียหาย ก่อนหลบหนีไปพร้อมทรัพย์สินภายในบ้าน จากการตรวจสอบตำรวจเชื่อว่า คนร้ายมีมากกว่า 2 คน และน่าจะเป็นเยาวชนในหมู่บ้าน เนื่องจากบ้านหลังเกิดเหตุไม่มีคนนอนเฝ้ามาประมาณ 2 สัปดาห์ และจากการสืบทราบและติดตามจับกุมคนร้ายได้ยกแก๊งที่บ้านพัก พร้อมทรัพย์สินของกลางบางส่วน มาสอบสวนที่ สภ.เมืองอุดรธานี

จากการสอบสวนนายเพิก หัวหน้าแก๊งให้การรับสารภาพว่าเป็นหัวหน้าแก๊ง เห็นบ้านหลังนี้ไม่มีคนอยู่หลายวัน เช้าวันอาทิตย์ที่ 14 ม.ค.จึงชวนน้องๆในหมู่บ้านรวมทั้งหมด 5 คน โดยตนเป็นคนใช้ฆ้อนงัดประตูหลังบ้าน ก่อนพากันเข้าไปรื้อค้นขโมยทรัพย์สิน ต่อเครื่องเสียงร้องเพลงคาราโอเกะ และเล่นปาลูกโป่งกันภายในห้องรับแขก แล้วให้น้องๆ ช่วยกันขนทรัพย์สินออกไปทางรั้วหลังบ้าน ไปเก็บไว้ที่บ้านของตนที่อยู่ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 500 เมตร เพื่อนำไปขายและได้นำไปขายบางส่วนได้แล้ว

“วันเกิดเหตุตนหลบไปเสพยาบ้า จำนวน 3 เม็ด ภายในห้องนอนของเจ้าของบ้าน จากนั้นได้ใช้กำปั้นชกรูปแต่งงานเจ้าของบ้านฉีกขาดเสียหาย ที่ทำไปไม่ได้โกรธแค้นเจ้าของบ้าน แต่ทำไปด้วยความคึกคะนองเท่านั้น โดยพากันหลบหนีออกจากบ้านไปช่วงค่ำวันเดียวกัน ส่วนยาบ้าตนซื้อมาจากเพื่อนที่คุ้มผาสุก ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี ในราคาเม็ดละ 50 บาท และอยากกราบขอโทษครูผู้เสียหาย และสัญญาว่าจะเลิกเสพยาและงัดบ้านคนอื่นอีกแล้ว”

จากนั้นนายเพิก หัวหน้าแก๊งฟันน้ำนม ก้มลงกราบขอโทษครูและภรรยาเจ้าของบ้าน ซึ่งก็ให้อภัย พร้อมกับให้โอวาทกลับตัวกลับใจยังไม่สาย เพราะยังเป็นเด็กเยาวชนอยู่

นายวุฒินันท์  ครูผู้เสียหาย เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุตนมั่นใจว่าตำรวจคงติดตามจับคนร้ายได้อย่างแน่นอน และเมื่อคืนที่ผ่านมา ตนได้รับแจ้งจากชุดสืบสวนพิรุณ สภ.เมืองอุดรธานี ว่าสามารถติดตามกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุได้ทั้งหมดแล้ว พร้อมของกลางที่ขโมยไปบางส่วน ทีแรกนึกว่าคนร้ายเป็นผู้ใหญ่ติดยา แต่พอรู้ว่าเป็นเยาวชนอายุ 8-15 ปี ก็รู้สึกหดหู่ใจ ในฐานะตนเป็นครู ก็ให้อภัยเมื่อเขาสำนึกผิด และสัญญากับตนและภรรยาว่าจะไม่ทำอย่างนี้อีกแล้ว และฝากถึงครูที่สอนเด็กที่ก่อเหตุ และผู้ปกครอง ให้มั่นดูแลเอาใจใส่ หรือเข้มงวดกับบุตรหลานให้มากกว่านี้

นางน้อย นามสมมุติ อายุ 56 ปี ยายนายเพิก กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนเลี้ยงแม่ของน้องเพิกมาตั้งแต่เล็ก และเป็นหลานสามีเก่า เลี้ยงเป็นลูกจนแต่งงานมีครอบครัว และมีน้องเพิกออกมา ตนก็ยังได้มาเลี้ยงน้องเพิกต่ออีก ส่วนพ่อกับแม่ของเพิก ก็แยกทางกันตั้งแต่น้องเพิกฯยังเล็กน้องเพิกจึงอยู่กับตน ปกติน้องเพิก ก็จะมีพฤติกรรมแบบนี้ สิ่งของที่อยู่ในบ้านก็จะขโมยเอาไปขาย เงินที่ตนไปขายของที่ตลาดกลับมาบ้าน น้องเพิกก็จะมารื้อค้นเอาไปซื้อยาบ้ามาเสพ ซึ่งน้องเพิกติดเสพยาบ้ามาประมาณ 2 ปี ตนก็เคยสั่งสอนบอกอยู่ว่า มีบ้านให้อยู่ มีข้าวให้กิน สิ่งของที่อยู่ในบ้านทำไมไม่รักษาเอาไว้ และเป็นคนดีได้เพียง 3 วัน ก็กลับมาทำพฤติกรรมแบบเดิมอีก

นางน้อย กล่าวต่อไปว่าหลังทราบข่าวว่าน้องเพิกพาน้องๆในหมู่บ้านไปงัดบ้านครูตนก็รู้สึกเสียใจ และอยากขอโทษที่ดูแลสั่งสอนเขาไม่ได้ดี เพราะต้องทำมาหากินไปขายของทุกวัน เพื่อหาเลี้ยงดูเขาเราไม่ใช่คนรวย เป็นคนหาเช้ากินค่ำ อยากบอกน้องเพิกว่าให้กลับตัวเป็นคนดีของสังคมแต่ว่าสิ่งแวดล้อมมันนำพาไปกระทำผิด และติดเสพยาบ้า หากไม่ได้เสพเขาก็มีอาการหงุดหงิด ต่อไปตนก็จะพยายามดูแลหลานชายให้ดีที่สุด

แหล่งข่าว : https://www.esandailyonline.com/

หนองบัวลำภู รถพ่วงบรรทุกอ้อยประสานงานไฟลุกท่วมคนขับสาหัสทั้งคู่

Best Breitling Blue Replica Watches For Sale.Buy Replica Breitling Watches online with cheap price.

Best quality replica watches uk is fake swiss omega watches at replicaomega.io,sale 1:1 best replica omega watches, high-quality swiss movement.

https://replicarolex.sr is the best Replica Rolex Watches site. Here you can find various series of fake Rolex watches, best assurance, and fast delivery.

Buy best luxury replica watches Online Store. Provide fashion fake luxury watches like rolex, panerai, tag heuer, omega with cheap price.

เมื่อวันที่(13 มค.67) ช่วงค่ำที่ผ่านมา พ.ต.ท.ธนายุทธ ดวงทองมา รอง สว.(สอบสวน)พนักงานสอบเวร สภ.ศรีบุญเรือง ได้รับแจ้งเหตุรถบรรทุกพ่วง (หัวลาก) สิบแปดล้อ เฉี่ยวชนกับรถบรรทุกพ่วง (หัวลาก) สิบแปตล้อที่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2420 ถนนศรีบุญเรือง-นากลาง ข้างวัดบ้านโนนสงวน ต.โบนม่วง อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมพวกออกตรวจที่เกิดเหตุ โชคดีรถบรรทุกพ่วงทั้งคู่เป็นรถว่างเปล่าไม่ได้บรรทุกอ้อย

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุรถดับเพลิง อบต.โนนม่วง นำรถดับเพลิงสกัดไฟที่ลุกหัวรถบรรทุกและรถพ่วง (หัวลาก) ยี่ห้อ ฮีโน่ ทะเบียน หัวลาก 81-5008 เลย หางลาก 81- 5009 เลย และมีไฟได้ลุกไหม้รถบรรทุกพ่วง (หัวลาก) ยี่ห้อ ฮีโน่ ทะเบียน หัวลาก 81-5008 เลย หางลาก 81-5009 เลย อยู่ประมาณ 15 นาที รถดับเพลิง อบต.โนนม่วง จึงดับเพลิงได้ ในขณะที่กู้ภัยมังกรศรีบุญเรือง ช่วยกันอำนวยความสะดวกรถยนต์ที่ผ่านไปมาเป็นจำนวนมาก พบรถบรทุกพ่วง (หัวลาก) ยี่ห้อ ฮีโน่ ทะเบียน หัวลาก 81-5008 เลย หางลาก 81- 5009 เลย และมีไฟได้ลุกไหม้รถบรรทุกพ่วง (หัวลาก) ยี่ห้อ ฮีโน่ ทะเบียน หัวลาก 81-5008 เลย หางลาก 81-5009 เลย ได้รับความสียหาย มีนาย พรภิรมย์ โพธิจักร อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100 ม.5 ต.หัวนา อ.เมืองหนองบัวลำภู จ,หนองบัวลำภู แสดงตนเป็นผู้ขับขี่ได้รับบาดเจ็บไม่มาก

และห่างกันไม่มากพบรถบรรทุกพ่วง(หัวลาก) ทะเบียน หัวลาก 79-8670 กรุงเทพมหานคร หางลาก 86-6278 นครราชสีมา บริเวณด้านหน้าบุบยุบ มีผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บกู้ชีพ อบต.โนนม่วง และ กู้ชีพกู้ภัยมังกรศรีบุญเรือง นำส่งโรงพยาบาลศรีบุญเรือง ก่อนหน้าที่จะไปถึง จากการสอบสวนและพยานที่เห็นเหตุการณ์ ทราบว่ารถบรรทุกพ่วง ทั้งคู่เป็นรถว่างเปล่าไม่ได้บรรทุกอ้อย และอาจจะขับเร็วเบรกไม่ทัน หรือต้องการจะเลี้ยวไปทางเดียวกัน จึงเป็นเหตุให้รถบรรทุกพ่วงทั้ง 2 คนชนกันจนเกิดไฟไหม้คนขับรถบรรทุกพ่วง ที่นายพรพิรมย์ฯขับมาและลงรถทันก่อนที่ไฟจะลุกไหม้ทั้งคันพร้อมเสียงระเบิดของล้อรถดังเป็นระยะ

ลักษณะของการเกิดอุบัติเหตุ บนถนนสาย 2420 (ศรีบุญเรือง-นากลาง) ประมาณ กม.25 บ้านโนนสงวน ต.โนนม่วง อ.ศรีบุญเรือง ขณะที่รถบรรทุกพ่วงหางลาก(ทั้งคู่)ไม่ได้บรรทุกอ้อย เป็นรถเปล่า อาจจะวิ่งมาด้วยความเร็วทั้งคู่ คันที่ไฟไหม้ทั้งคันขับมาจากอำเภอศรีบุญเรือง พอมาถึงที่เกิดเหตุได้เลี้ยวขวาจะเข้าไปอีกถนนเส้นหนึ่งทางหลวงชนบท ตรงกันเป็น สี่แยกกลางหมู่บ้านข้างวัด (ไปต.หนองแก อ.ศรีบุญเรือง) คาดว่าจะกลับเข้าบ้านหรือไปขึ้นอ้อยส่งโรงงาน

ขณะที่รถบรรทุกพ่วงอีกคันคาดว่าไปส่งอ้อยที่โรงงานน้ำตาลเอราวัณ ในเขต อำเภอนากลาง กลับมาจากอาจจะกลับเข้าบ้านพักหรือไปบรรทุกอ้อยเข้าโรงงานเบรกไม่ทันหรือจะเลี้ยวซ้ายไปบรรทุกอ้อย จึงเกิดการชนกันสะนั่นหวั่นไหวใจกลางหมู่บ้าน จนเกิดเสียงระเบิดของล้อรถสิบแปดล้อหรือแก๊สระเบิดเป็นระยะส่วนสาเหตุคงต้องสอบพยานและผู้ขับขี่ทั้ง 2 คน เพื่อหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ในขณะที่ ร.พ.ศรีบุญเรือง แพทย์-พยาบาลทำการรักษาผู้บาดเจ็บ ทราบว่าบาดเจ็บที่สาหัสมี นายวิเชียร เข็มโคกกรวด อายุ 58 ปี ที่อยู่ 145 ม.1 ต.โคกกรวด อ.เมือง จ.นคราชสีมา เป็นผู้ขับขี่รถบรรทุกทะเบียน (หัวลาก) ทะเบียน หัวลาก 79-8670 กรุงเทพมทานคร หางลาก 86-6278 นครราชสีมา และมี น.ส. มยุรี ภูชมศรี อายุ 50 ปี ที่อยู่ 144 ม.5 ต.โนนสูง อ.ยางตลาด จ.ภาฬสินธุ์ ผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่จะทำการสอบสวนหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

แหล่งข่าว : https://www.esandailyonline.com

เจ้าของตู้หยอดเหรียญ “สุดแค้น” ถูกมิจฉาชีพใช้แบ๊งก์กาโม่หยอดตู้

เจ้าของร้านขายของชำช้ำใจ โดนลูกค้าแสบ เอาแบงค์กาโม่ 4 ใบ มาเติมเงิน

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 23 พฤศจิกายน นางบัวพันธ์ สมสุด อายุ 61ปี เจ้าของร้านขายของชำ เลขที่121/14 ถนนโพนพิสัย ตำบลหมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี เข้าแจ้งความกับร.ต.อ.สรวิศิษฏ์ มีเพียร รองสารวัตร สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ว่าถูกลูกค้า นำแบงค์กาโม่ หรือแบงค์ของเล่นรูปการ์ตูน จำนวน 4 ใบ มาหย่อนเติมเงิน เข้าโทรศัพท์ หรือเติมเข้าวอลเล็ต เมื่อคืนนี้ ทำให้ตนเองเดือนร้อนเสียเงินไป 200 บาท

จากนั้นนางบัวพันธ์ฯ ได้ทำการสาธิตเอาแบงค์กาโม่ ทำการเติมเงินเข้าไปในตู้เติมเงิน ก็สามารถเติมเงินได้ พร้อมให้การว่า ตนได้นำตู้เติมเงินสีส้มเขียว มาตั้งให้บริการอยู่ที่หน้าร้าน มาเป็นเวลา 6 ปี ก่อนหน้านี้ตู้เติมเงินก็เคยโดนงัด โดยทุก 2 วัน ตนจะเปิดตู้เติมเงิน เพื่อเอาเงินออกจากตู้ ก่อนที่จะเติมเงินเข้าไปในตู้ ครั้งละ1,000 บาท เมื่อเช้ามาเปิดตู้พบว่า มีแบงค์กาโม่ ใบละ 50 จำนวน 4 ใบ แล้วทำการเช็ดตู้เติมเงิน ทราบว่า เมื่อคืนนี้ช่วงเวลา 20.00 น. มีลูกค้ามาใช้บริการเติมเงินที่ตู้จำนวน 2 ราย ทำให้ตกใจเพราะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลยแบบนี้ ทำไมตู้เติมเงินถึงรับเอาแบงค์ปลอมได้

“ก็อยากฝากถึงคนที่ทำด้วยทำให้คนอื่นได้รับความเดือดร้อนกว่าจะได้เงินกำไรแต่ละบาท เช่น50 บาท จะได้กำไรเพียงเพียงแค่ 3 บาท หลังจากทดลองเข้าแบงค์กาโม่ ลองเติมเงินที่ตู้ปรากฏกว่าสามารถเติมเงินได้ ซึ่งจะหยุดให้บริการตู้เติมเงิน เสียก่อน โดยโทรแจ้งบริษัท ของตู้เติมเงิน มาทำการแก้ไขเสียก่อน แล้วต่อไปก็อาจจะติดตั้งกล้องวงจรปิด เอาไว้ที่บริเวณหน้าร้าน เพื่อจะได้ทราบตัวลูกค้าแสบเป็นใคร”

ที่มา: https://www.esandailyonline.com/

ขอนแก่น สาวชาวบ้านขับมอไซด์ตกหลุมเจ็บ เย็บหน้าผาก 12 เข็ม

สาวบ้าน ๆ ขับรถมอเตอร์ไซด์กลับจากการขายของ ช่วงหัวค่ำ ถนนมืดมองไม่เห็นทาง ตกหลุมใหญ่ได้รับบาดเจ็บ ถูกหามส่งโรงพยาบาลเย็บแสกหน้า 12 เข็ม

เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2566 เจ้าหน้าที่กู้ชีพเทศบาลตำบลกุดกว้าง อำเภอหนองเรือ จังหวัดขอนแก่น ได้ช่วยกันปฐมพยาบาลนางสาวพรธิดา กรมวังก้อน อายุ 21 ปี ชาวบ้านหนองแปน ตำบลกุดว้าง อำเภอหนองเรือ หลังประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ล้ม เนื่องจากเสียหลักตกหลุมกลางถนนขนาดใหญ่ จนทำให้ได้รับบาดเจ็บ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 19.45น ของวันที่ 20 ก.ย. 66 ที่ผ่านมา บนถนนโยธาธิการ ขก.2080

   นางสาวพรธิดา กรมวังก้อน ได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่าในวันดังกล่าว ตนเองได้ปิดร้านขายน้ำชาไข่มุก จากนั้นได้ขับรถจักรยานยนต์กลับบ้าน โดยมีน้องชายได้ขับรถมาด้วยกันอีกคัน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ เป็นถนนที่ไม่มีไฟทางรถจักรยานยนต์ได้เกิดเสียหลักตกหลุมกลางถนน ก่อนที่ตนเองพร้อมรถจักรยานยนต์จะล้มอย่างไร สิ่งของที่นำกลับมาบ้านกระจายเต็มถนน น้องชายจึงรีบเข้ามาช่วย ก่อนที่จะแจ้งหน่วยกู้ชีพได้เข้ามาช่วยเหลือ โดยมีแผลถลอกตามตัวและที่บริเวณหน้าผากเป็นแผลขนาดใหญ่ แพทย์ต้องเย็บถึง 12 เข็ม โชคดีที่สมองไม่ได้รับการกระทบกระเทือน ซึ่งถนนสายนี้ จะเป็นหลุมเป็นบ่อตลอดเส้นทางกลางคืนจะมืดไม่มีไฟทาง

ด้านนายธราดล สอนมี อายุ 36 ปี ครูโรงเรียนบ้านสำราญหินลาด บอกว่า ถนนโยธาธิการ ขก.2080 เส้นทางนี้ชาวบ้านมากกว่า 4 หมู่บ้านที่ใช้สัญจรผ่านไปมาต่างได้รับความเดือดร้อน เพราะถนนเป็นหลุมเป็นบ่อตลอดทั้งสาย และเคยเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์หลักหลบหลุม ก่อนจะไปชนประสานงากับรถยนต์ที่ขับสวนทางมาจนเสียชีวิตมาแล้ว อีกทั้งในช่วงกลางคืนถนนจะมืดมาก เพราะเส้นทางนี้ไม่มีไฟทางส่องสว่างรถจักรยานยนต์จะเกิดอุบัติเหตุจากการตกหลุมบ่อยมาก ซึ่งหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับทางนางสาวพรธิดา ทางเทศบาลตำบลกุดกว้างได้นำยางมะตอยมาอุดหลุมบริเวณที่เกิดเหตุ รวมทั้งถนนตลอดทั้งสายแต่ก็เป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ เพาะไม่นานหลุมก็จะกลับมาเหมือนเดิม จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เข้ามาแก้ไข้ไม่ว่าจะเป็นการทำถนนให้ดี พร้อมกับการติดตั้งไฟส่องสว่างด้วย.

ที่มา : https://www.esandailyonline.com/

หนองคาย พบอีกคันรถถูกขโมยจมน้ำโขง

จากการที่ขบวนการค้ารถข้ามชาติพยายามลักลอบ น้ำข้ามโขงไปขายที่ สปป.ลาว เจอทหารพราน ขับรถลงแพปล่อยจมหายไปกับน้ำแล้วขึ้นเรือหลบหนีเอาตัวรอด

วันที่ 6 ก.ค.66 เวลา 08.00 น. ที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านตาดเสริม ม.1 ต.บ้านม่วง อ.สังคม จ.หนองคาย ร.ท.พิชิตพล เคนดา ผบ.ร้อย.ฉก.ทพ.2104 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี นายสมควร ใจซื่อ นายอำเภอสังคม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในพื้นที่และนักประดาน้ำหน่วยกู้ภัยประจักษ์หนองคาย ร่วมกันค้นหา และตรวจยึดรถยนต์กระบะ ที่ขบวนการค้ารถข้ามชาติพยายามลักลอบ นำข้ามโขงไปขายที่ สปป.ลาว เจอทหารพราน ขับรถลงแพปล่อยจมหายไปกับน้ำแล้ว นานถึง 3 วัน พบห่างจากจุดเกิดเหตุกว่า 80 เมตร ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.นรธิป โพยนอก ผบ.กกล.สุรศักดิ์มนตรี พ.อ.สุริวัชร์ อัครพรเดชาพงษ์ ผบ.ฉก.ทพ.21 นายสมควร ใจซื่อ นายอำเภอสังคม

สืบเนื่องจากเมื่อ 3 ก.ค.66 ที่ผ่านมา ร.ท.พิชิตพล เคนดา ผบ.ร้อย.ฉก.ทพ.2104 ทพ.21 กกล.สุรศักดิ์มนตรี พร้อมกำลังพล ร้อย.ฉก.ทพ.2104 และหน่วยความมั่นคงในพื้นที่ได้ตรวจยึดรถยนต์ โตโยต้ารีโว่ 4 ประตู สีเทา ทะเบียน จง 2877 ชลบุรี จำนวน 1 คัน ซึ่งขบวนการค้ารถข้ามชาติพยายามลักลอบ นำข้ามโขงไปขายที่ประเทศลาว ในพื้นที่ บ้านตาดเสริม ม.1 ต.บ้านม่วง อ.สังคม ในขณะที่เข้าจับกุมอยู่นั้น ได้มีคนขับรถที่จอดบนแพ ขับรถยนต์กระบะ พุ่งลงแม่น้ำโขงและได้เปิดประตูรถออกมาขึ้นเรือหลบหนีไปทาง สปป.ลาว รถคันดังกล่าวได้จมลงในแม่น้ำ จึงได้ประสาน หน่วยกู้ภัยประจักษ์ หนองคาย กู้ภัยประจักษ์บ้านดุง และสมาคมกู้ชีพ-กู้ภัยเลย จ.เลย เข้าร่วมช่วยทำการค้นหารถยนต์กระบะคันที่จมลงในแม่น้ำโขง ตั้งแต่วันที่ 3 – 5 ก.ค. 66

ต่อมาในวันที่ 5 ก.ค.66 เวลา 15.30 น. ชุดค้นหาได้พบรถยนต์ที่จ่มอยู่ในแม่น้ำโขง ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 80 เมตร จากนั้นจึงได้ทำการกู้ขึ้นมาจากน้ำแล้วนำมาตรวจสอบอย่างละเอียดที่ ร้อย.ฉก.ทพ.2104 รวมตรวจยึดรถยนต์ครั้งนี้จำนวน 2 คัน คือ รถยนต์โตโยต้า รุ่น รีโว่ ประตู สีเทา ทะเบียน จง 2877 ชลบุรี และ รถยนต์โตโยต้า รีโว่ 4 ประตู สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน (คันที่กู้ขึ้นจากการจมน้ำ) จากนั้นได้นำของกลางส่ง พนง.สส.สภ.นางิ้ว อ.สังคม จังหวัดหนองคาย เพื่อติดต่อผู้ครอบครองรถ และติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนิคตดีตามกฎหมายต่อไป

นายพันธลภ แสงทอง / ฉก.ทพ.2104 ทพ.21 จังหวัดเหนองคาย

ขอนแก่น (ชมคลิป) โซเชียลแชร์คลิป กระบะเมาซิ่งเลื้อยเป็นงู หวิดชนเพื่อนร่วมทาง ปีนเกาะกลาง ไปได้เฉย

รถยนต์กระบะสีบอร์นที่กำลังขับบนถนนมะลิวัลย์มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองขอนแก่น ขับลักษณะคล้ายคนเมา เบี่ยงรถซ้ายขวาหวิดชนรถของประชาชนที่ใช้เส้นทางเดียวกัน ก่อนพุ่งขึ้นเกาะกลางถนนแล้วหักลงถนน

วันที่ 6 กรกฎาคม 2566 ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “ทนงศักดิ์ โพธิ์กัน” ได้โพสต์คลิปวีดีโอ พร้อมระบุข้อความว่า “เตือนครับ มุ่งหน้าเข้าขอนแก่น คนขับเมา วันที่ 6 เวลา 12.54 น ตอนนี้ขับเข้าไปขอนแก่นแล้วครับ” ซึ่งภายหลังจากที่คลิปนี้ถูกโพสต์ลงไม่นาน ได้มีผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็น และแชร์ออกไปเพื่อแจ้งเตือนภัยผู้ใช้รถใช้ถนนกันเป็นจำนวนมาก

โดยคลิปวีดีโอดังกล่าว เป็นเหตุการณ์ที่ผู้โพสต์คลิปได้ใช้โทรศัพท์มือถือ ถ่ายคลิปเหตุการณ์ขณะที่รถกระสีบอร์น ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนที่กำลังขับอยู่บนถนนมะลิวัลย์ สายขอนแก่น – ชุมแพ ซึ่งกำลังมุ่งหน้าเข้าเมืองขอนแก่น และช่วงที่กำลังถ่ายคลิปวีดีโอนั้นอยู่ในพื้นที่ ต.บ้านเป็ด อ.เมืองขอนแก่น จากคลิปจะเห็นว่า รถกระบะคันดังกล่าวได้ขับส่ายไปส่ายมาตอลดเวลา มีบางช่วงที่รถขับส่ายไปทางซ้ายจนเกือบชนรถยนต์เก๋งของประชาชนที่กำลังอยู่อีกช่องทาง จนเจ้าของรถยนต์เก๋งต้องเบี่ยงรถของตนเองออก ก่อนที่รถยนต์กระบะจะเบี่ยงรถกลับมาทางขวา และขับซ้ายไปซ้ายมา เจ้าของคลิปวีดีโอที่กำลังขับตามหลังไปได้พยายามบีบแตรแจ้งเตือนรถคันที่อยู่ข้างหน้า รวมทั้งแจ้งเตือนผู้ร่วมทางให้ระมัดระวัง

จนกระทั้งรถยนต์กระบะคันดังกล่าวขับมาถึงบริเวณใกล้จะถึงจุดกลับรถใต้สะพานทางเลี่ยงเมือง จู่ๆ รถยนต์กระบะก็ขับพุ่งขึ้นไปบนเกาะกลางถนน เกือบชนเข้ากับเสาไฟฟ้าส่องสว่าง แต่หักรถลงมาถนนได้ทัน ทำให้เสาจราจรที่อยู่เกาะกลางถนนได้รับความเสียหาย โดยหลังจากนั้นรถยนต์กระบะก็ขับมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองขอนแก่นไปอย่างรวดเร็ว โดยคนขับระบุว่า ตนเองไม่ได้ติดตามไป เนื่องจากแยกไปคนละทาง จึงนำคลิปนี้มาโพสต์เตือนภัย และเป็นหลักฐานหากเกิดอุบัติเหตุขึ้น

ที่มา : https://www.esandailyonline.com/

ศรีสะเกษ – รวบแก๊งหนุ่มแสบรุมกระทืบรุ่นน้อง ‘ทีนเหยียบหน้า’ เจ็บปางตาย

จากกรณีที่มีผู้โพสต์รายหนึ่งโพสต์คลิปเด็กหนุ่มซึ่งเป็นเยาวชน ถูกทุบตีทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ หน้าตาปูดบวม เผยแพร่ทางโซเชี่ยล และมีผู้แชร์และแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก

ล่าสุด เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 66 ที่ สภ.ไพร อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่ พมจ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กจังหวัดศรีสะเกษ และแม่ ของ นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี นำนายเอ เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.พิชิต โพธิทัด พนักงานสอบสวน สภ.ไพร อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ หลังถูกทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ และถ่ายคลิปลงโซเชี่ยล โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาาณ 02.00 น. วันที่ 1 ก.ค. 2566 ที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.ไพร อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ

นายเอ เล่าว่า ตนมาคลุกคลีกับรุ่นพี่กลุ่มนี้ได้ประมาณ 2-3 ครั้ง ครั้งนี้รุ่นพี่คนหนึ่งบอกกับตนว่าลืมสายช๊าตโทรศัพท์มือถือ ให้เช้าไปเอาในบ้านที่เกิดเหตุให้หน่อย ตนจึงเดินเข้าไปและรุ่่นพี่คนดังกล่าวได้เดินตามมาประมาณ 3-4 คน พอเข้ามาในห้องเสร็จ รุ่นพี่ก็ชกต่อยทุบตีตน โดยมีผู้หญิงถ่ายคลิปวีดีโอในขณะเกิดเหตุ จากนั้นตนได้อาศัยจังหวะรุ่นพี่เผลอวิ่งออกทางประตูหน้าบ้าน แล้วปั่นจักรยานกับบ้านไป

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ติดตามควบคุมตัวผู้ก่อเหตุมาทำการสอบสวนแล้ว จำนวน 3 คน ซึ่งเป็นกลุ่มเพื่อนที่อยู่ในเหตุการณ์ และลงมือทำร้ายร่างกายนายเอ เบื้องต้นจากการสอบสวนทั้ง 3 คนรับสารภาพว่าทำร้ายร่างกาย นายเอ จริง จึงได้ตั้งข้อหาว่า ได้รวมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว รวมกันทำร้ายร่างกาย และหนึ่งใน 3 คน ตรวจร่างกายพบมีสารเสพติด 1 ราย ทั้งนี้ผู้ต้องหา 2 ราย อายุไม่ถึง 18 ปี เลยต้องส่งสถานพินิจและคุ้มครองเด็ก ส่วนอีกหนึ่งรายอายุ 19 ปี และยังตรวจเจอสารเสพติดอีก จึงได้นำตัวส่งศาลดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนผู้ถ่ายคลิปมือถ่ายก็จะได้มีการเรียกตัวมาสอบสวนอีกครั้งเพื่อดำเนินการต่อไป.

ทีมข่าว จ.ศรีสะเกษ // รายงาน

ที่มา : https://www.esandailyonline.com/

อุดรธานี-พนักงานรถไฟเสียชีวิตคาป้อมทางพาดรถไฟหนองแด ถนนสายอุดรธานี-หนองคาย

รถไฟวิ่งผ่านไม่ได้ เปิดหวูดนานเป็นชั่วโมง คนขับลงไปดู พบพนักงานแผงกั้นดับคาป้อม !!!วันที่ 18 มิ.ย.66 เวลา 07.00 น.สภ.นาข่า อ.เมือง จ.อุดรธานี รับแจ้งมีพนักงานรถไฟเสียชีวิตคาป้อมทางพาดรถไฟหนองแด ถนนสายอุดรธานี-หนองคาย ขณะเดียวกันช่วง 06.00 น.มีรถไฟต้องผ่านทางพาดถนนสายอุดร-หนองคาย แต่ไม่มีพนักงานเอาแผงกั้นรถไฟลง รถไฟต้องชะลอความเร็วและเปิดหวูดนานกว่าชั่วโมง ก็ยังไม่มีใครเอาแผงกั้นลง จนคนขับรถไฟต้องโทรพนักงานแผงกั้นอีกคนรีบมาเอาแผงกั้นถนนให้รถไฟผ่าน จึงผ่านไปได้โชคดีที่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ต่อมา เจ้าหน้าที่ฯ ได้เข้าไปตรวจสอบภายในป้อมพบศพนายสุธิธรรม สำเร็จรัมย์ อายุ 58 ปี เป็นพนักงานรถไฟ และเป็นอาสาสมัครของมูลนิธิส่งเสริมธรรมอุดรธานี เสียชีวิตในเตียงที่นอนของป้อม ข้างเตียงพบยารักษาโรคความดันโลหิตอยู่ในห่อ คาดว่าเสียชีวิตเนื่องจากโรคประจำตัว

อาจเป็นรูปภาพของ ลิงลม, มุ้งกันยุง, เตารีดผ้า และ โรงพยาบาล
อาจเป็นรูปภาพของ 4 คน และ ข้อความ
อาจเป็นรูปภาพของ ข้อความ

ข่าว ภาพ – มานพ มูลพลึก – ปัญญา ฤกษาภิรมย์

อุดรธานี-‘FAST’ เร็ว..แรง ค้างหลังคา’ บิคอัพเสียหลักแฉลบน้ำปลิวติดค้างหลังคาบ้าน

ขึ้นไปได้ไง ปิคอัพเจิดน้ำเหาะเหินฟ้าท้านรกพุ่งทะลุหลังคาบ้านสองชั้น ที่จ.อุดรธานี มีเรื่องราวที่ไม่น่าเป็นไปได้ แต่เป็นไปแล้ว เร็วแรงทะลุนรก หนุ่มซิ่งปิคอัพมาด้วยความเร็วแฉลบน้ำพุ่งเหินฟ้าทะลุหลังคาบ้านชั้น 2 รถพังยับ แต่คนรอด เจ้าของบ้านเผยนาทีชีวิตรอดตายเหมือนเจ้าที่บอกให้ย้ายไปนอนที่อื่น ร้อนรุ่มไปทั้งตัวทั้งที่ฝนตกสุดท้ายรอดตาย

เมื่อเวลา 02.30 น.วันที่ 13 มิ.ย66 พ.ต.ท. เจษดา ว่องไว สารวัตรเวรสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งเหตุมีรถชนบ้านเรือนประชาชน ที่ถนนทางเข้าบ้านนาดอน หมู่ 16 ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี  รถปิคอัพเหาะเหินฟ้าไปอยู่บนหลังคาบ้าน หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างเมธาสถานฯ โดยที่เกิดเหตุเป็นบ้านเลขที่ 14 บ้านนาดอน ตั้งอยู่ริมถนน เป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ 2 ชั้น บนหลังคาบ้านพบรถปิคอัพโตโยต้ารีโว่ 4 ประตู สีขาว หมายเลขทะเบียน กม 1339 อุดรธานี ติดค้างบนหลังคาความสูงประมาณ 8 เมตร จากนั้นรถค่อยๆ เลื่อนไถลลงมาติดหลังคาห้องที่ติดอยู่กับบ้าน ขณะที่คนขับรถคันดังกล่าวทราบชื่อคือนายธนกร เฉื่อยมะเริง อายุ 21 ปี ชาวบ้านโพนงาม อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ขับมาคนเดียว ค่อยๆ เปิดประตูรถลงมาได้รับบาดเจ็บเพียงแขนขวามีรอยถลอกแค่นั้น เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลและให้การช่วยเหลือเป็นการเบื้องต้น

ขณะที่เจ้าของบ้านและชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงถึงกับช็อครถขึ้นไปได้ไง ต่างพากันมามุงดูจำนวนมาก ขณะเดียวกันที่บริเวณที่จอดรถหน้าบ้าน พบรถปิคอัพโตโยต้ารีโว่แบบแค๊ป สีดำ หมายเลขทะเบียน ผธ 8349 อุดรธานี สภาพด้านหน้าจากห้องคนขับไปถึงตัวเครื่องพังยับเยิน ซึ่งเป็นรถของเจ้าของบ้าน นอกจากนี้ยังพบว่าตัวบ้านพังไปครึ่งหนึ่ง จั่วหน้าบ้านก็ถูกแรงชนของรถจนเสาเอียง

นางแก้วกัลยา นามอาศา อายุ 67 ปี เจ้าของบ้าน ซึ่งยังมีอาการช็อครถเหาะขึ้นหลังคาบ้าน เปิดเผยว่า ไม่รู้เหมือนกันรถขึ้นไปได้ไง กำลังนอนหลับนอนฝันอยู่ดีๆ ประมาณตี 2 ครึ่งได้ยินเสียงโครม เท่านั้นแหละบ้านก็สะเทือนแรงมาก ตนเองสะดุ้งตื่นตกใจวิ่งออกมาจากบ้าน เห็นรถขึ้นไปอยู่บนหลังคาชั้น 2 แล้ว ตกใจและขาสั่น รีบวิ่งบอกลูกและลูกสะใภ้ออกมา แต่โชคดีที่เขาไปนอนอีกห้อง หากนอนห้องที่อยู่ข้างบ้าน ชีวิตคงไม่รอดแน่ งงแท้ๆ ทางหน้าบ้านเป็นถนนตรง รถขึ้นไปหลังคาบ้านได้อย่างไร หากรถคันนี้ไม่ชนรถคันดำของแม่ รับรองรถพุ่งเข้าบ้านมีคนตายแน่นอน

ส่วนลูกสะใภ้เจ้าของบ้าน บอกว่า ขณะที่หลับอยู่ได้ยินเสียงโครมรีบตื่นออกมาวิ่งมาหน้าบ้านก็เห็นรถไปอยู่บนหลังคาแล้ว เบื้องต้นเขาอ้างว่า รถที่วิ่งสวนมาเปิดไฟสูงใส่ทำให้เสียหลักพุ่งชนบ้านเหาะไปถึงหลังคา ขณะที่เจ้าหน้าที่ฯ ตรวจสอบทราบว่า คนขับรถมาด้วยความเร็ว คาดว่าจะตกหลุมน้ำขังที่อยู่บนบ่อกลางถนนทำให้รถแฉลบเสียหลักพุ่งเหาะเหินฟ้าขึ้นบ้านทะลุหลังคา โดยพบร่องรอย

เช้าวันนี้ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่เกิดเหตุอีกครั้ง พบร่องรอยของรถที่คาดว่าจะตกหลุมบ่อกลางถนนแล้วเสียหลักพุ่งไปชนรถของเจ้าของบ้านแล้วเหินฟ้าขึ้นไปบนหลังคาชั้น 2 โดยเจ้าของบ้านยังตกใจไม่หาย แต่ก็โชคดีที่รอดมาได้ทั้งบ้าน

นายอนุพงษ์ แก้วมหาวงศ์ อายุ 35 ปี ลูกชายเจ้าของบ้าน เปิดเผยว่า เมื่อวานฝนตกมาตอนเย็น แต่ตอนกลางคืนอากาศร้อน ปกติจะนอนข้างบ้านทุกวัน แต่เมื่อคืนรู้สึกร้อนรุ่มยังไงไม่รู้ จึงพาภรรยาและลูกไปนอนภายในบ้าน รอดตายมาได้ เชื่อเจ้าที่ปกป้องคุ้มครองบ้าน ดลใจให้ไปนอนที่อื่นจะต้องมีเหตุร้ายแน่ จากนั้นไปคงพากันทำบุญสะเดาะห์บ้านครั้งใหญ่อีกที ส่วนค่าเสียหายคงต้องไปแจ้งความดำเนินคดีและพูดคุยกับคนขับรถว่าจะเอาอย่างไร ดูค่าเสียหายทั้งรถและบ้านไม่ต่ำกว่าล้านแน่..

ที่มา : https://www.esandailyonline.com/