อุดรธานี – ศาลเจ้าปู่-ย่าอุดรจัดถนนอาหาร PUYA NIGHT MARKET ทุกวันเสาร์และอาทิตย์

If you’re looking for the best replica watches in the UK, click boomwatches.

When you are searching a website for selling Rolex replica, perfectwatches1.sr probably is your best choice. Here, we have the latest price and examination of Rolex replica and also provide the replica of ceramic movement and high-quality Swiss movement. Moreover, we guarantee the best price and superior customer service. Let’s take a look the original views from perfectwatches1.sr about Rolex replica.

Best place to choose panerai replica watchesour website:swissmade.is. Here you will find a great selection of fake watches at affordable prices for excellent quality.

ศาลเจ้าปู่-ย่าอุดรจัดถนนอาหาร PUYA NIGHT MARKET ทุกวันเสาร์และอาทิตย์รวบรวมอาหารหลากหลายให้นักท่องเที่ยวให้ช็อป ชิล พร้อมสักการะเจ้าปู่-เจ้าย่า เพื่อความเป็นสิริมงคล

เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 19 พฤษภาคม ดร.ธนดร พุทธรักษ์ นายกเทศมนตรีนครอุดรธานี เป็นประธานในพิธีเปิดถนนอาหาร PUYA NIGHT MARKET ซึ่งจัดโดยมูลนิธิศาลเจ้าปู่-ย่า ที่ถนนบริเวณหน้าหน้ามูลนิธิศาลเจ้าปู่-ย่า อุดรธานี เขตเทศบาลนครอุดรธานี โดยจะจัดให้มีขึ้นทุกวันเสาร์และอาทิตย์ โดยมีนายวิศิษฏ์ เอื้อวงศ์กูล ประธานมูลนิธิศาลเจ้าปู่-ย่า อุดรธานี สมัยที่ 5 นางอรัญญา อุดมลาภ รองประธานหอการค้าจังหวัดอุดรธานี พร้อมด้วยคณะกรรมการ ให้การต้อนรับพร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติอย่างคับคลั่ง

ดร.ธนดร  กล่าวว่า ด้วยทางมูลนิธิศาลเจ้าปู่-ย่า อุดรธานี ได้จัดถนนอาหาร PUYA NIGHT MARKET ขึ้นทุกวันเสาร์และอาทิตย์ ขึ้นที่ บริเวณหน้ามูลนิธิศาลเจ้าปู่-ย่าอุดรธานีไปจนถึงทางเข้าศาลเจ้าปู่-ย่า เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างอาชีพให้กับพ่อค้าแม่ค้าภายในจังหวัดอุดรธานี โดยรวบรวมอาหารหลากหลายชนิดให้นักท่องเที่ยวหรือประชาชนทั่วไป ที่เดินทางมากราบไหว้องค์เจ้าปู่ เจ้าย่า ได้เดินช็อป ชิลพร้อมกับเที่ยวชมศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน ซึ่งนอกจากการเดินช็อป ชิลแล้ว ยังสามารถเข้ากราบไหว้ขอพรองค์เจ้าปู่-เจ้าย่า เพื่อความเป็นสิริมงคลด้านในศาลเจ้าปู่ย่าอุดรธานีได้อีกด้วย

หนองคาย ฉลองครบรอบ 30 ปี สะพานมิตรภาพไทย-ลาว ร่วมทำบุญตักบาตรสองแผ่นดิน

replica rolex

Offer fake rolex datejust replica watch with high quality from Chinese,best quality replica rolex datejust fake swiss made watch.

Perfect Swiss replica wacthes/ replica cartier uk cheap sales.

If you’re interested in buying Tag Heuer Replica Watches, tagheuerreplica.com has you covered.

ไทย ลาวและออสเตรเลีย ร่วมทำบุญตักบาตรสองแผ่นดิน และร่วมเปิดงานฉลองย้อนรอย สะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 1 บนสะพานมิตรภาพไทย – ลาว ฯ เพื่อฉลองครบรอบ 30 ปี มีประชาชนชาวไทยและลาวร่วมจำนวนมาก

วันที่ 21 เมษายน 2567 เวลา 05.00 น. บริเวณบนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย นายสมภพ สมิตะศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย พร้อมด้วย นายอาดสะพังทอง สีพันดอน จ้าครองนครหลวงเวียงจันทน์, ท่านสมสัก วิไลทอน กงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และ ( เอกอัครราชทูตไทย) ประจำ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ร่วมเป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตรสองแผ่นดิน โดยมี พันเอก ณรงค์ วิชญาณวรวุฒิ รองผู้อำนวยการสำนักปฏิบัติภารกิจ รักษาความมั่นคงภายใน จังหวัดมณฑลทหารบกที่ 24, องค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย พร้อมด้วย ส่วนราชการ,หน่วยงานภาคเอกชน, พี่น้องประชาชนฝั่งไทย และ พี่น้องประชาชนฝั่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ร่วมในกิจกรรม ซึ่งได้นิมนต์พระสงฆ์ไทยและลาว จำนวน 62 รูป ออกเดินรับบิณฑบาตรบนสะพานมิตรภาพฯ มีประชาชนชาวไทยและชาวลาวเข้าร่วมทำบุญตักบาตรเป็นจำนวนมาก

สำหรับสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 เริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2534 โดยความร่วมมือระหว่างรัฐบาล ของ 3 ประเทศ คือ ออสเตรเลีย ไทยและ สปป.ลาว ก่อสร้างแล้วเสร็จและมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2537 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.9 , ฯพณฯ หนูฮัก พูมสะหวัน ประธานประเทศแห่ง สปป.ลาวและ ฯพณฯ พอล คีตติง นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียในขณะนั้น เป็นประธานร่วมในพิธีเปิดสะพานฯ และได้เปิดให้ประชาชนได้ใช้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2537 สร้างประโยชน์ให้กับประเทศเพื่อนบ้านทั้งในแง่เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม การคมนาคมและขนส่ง สะพานไม่เพียงแต่เชื่อมโยงพื้นที่ของทั้งสองประเทศ ให้มีความสะดวก รวดเร็วขึ้น แต่ยังเชื่อมโยงสายสัมพันธ์ระหว่างประชาชนชาวไทยและลาว จึงเปรียบเสมือนสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพและความร่วมมือระหว่างออสเตรเลีย ไทยและลาว

อุดรธานีจัด “เกษตรแฟร์ 2024” จัดประกวด “กบทอดกระเทียมพริกไทย”แถมแจกพันธุ์ไม้ให้ไปปลูกที่บ้าน

ที่เวทีกลางสนามทุ่งศรีเมืองอุดรธานี นายไชยา พรหมา รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “เกษตรแฟร์ 2024 (GMS Agri & Food 2024)” ระหว่างวันที่ 26 มกราคม – 4 กุมภาพันธ์ 2567 โดยมี นายสุรศักดิ์ อักษรกุล รอง ผวจ.อุดรธานี นายวิเชียร ขาวขำ นายก อบจ.อุดรธานี, นายธนพล กองทรัพย์ไพศาล ประธานหอการค้าจังหวัดอุดรธานี พร้อมด้วยกรรมการหอการค้า หน.ส่วนราชการ ผู้นำองค์กรเอกชน จำนวนมากให้การต้อนรับ

จากนั้นนายสุรศักดิ์ฯ กล่าวต้อนรับ จากนั้น นายธนพล กองทรัพย์ไฟศาล ประธานหอการค้า ผู้จัดงานในครั้งได้กล่าวรายงานว่า ด้วยทางหอการค้าจังหวัดอุดรธานี ได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนในจังหวัดอุดรธานี ได้จัดงานครั้งนี้โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างโอกาสทางการตลาดให้กับสินค้าเกษตรคุณภาพ สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล และขับเคลื่อน ภาคเกษตร เตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการรายย่อย ในงานพืชสวนโลกในปี 2569 เผยแพร่และสร้างโอกาสให้กับเกษตรกร สามารถพัฒนาระบบตลาดสินค้าเกษตรคุณภาพรวมถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างการรับรู้ให้กับจังหวัดอุดรธานี เป็นเมืองไมซ์ซิตี้

ภายในงานประกอบด้วยกิจกรรมต่างๆ อาทิ โซนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พบกับกิจกรรมของหน่วยงาน เกษตรและสหกรณ์จังหวัด, เกษตรจังหวัด, ประมงจังหวัด, ปศุสัตว์จังหวัด, ศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ อุดรธานี รวมถึงผลิตภัณฑ์เกษตรคุณภาพสูงจาก Young Smart Farmer และพืชสมุนไพรของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี และกิจกรรมส่งเสริมอาชีพจากสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 18 อุดรธานี โซนการแสดงสินค้า และนวัตกรรมของผู้ให้การสนับสนุน โซนที่ 3 สินค้าจากของดี 4 ภาค และ Street food – Food tuck โซนวิถีคนวิถีควาย ผลิตภัณฑ์ผ้าขิดลายควาย “จากผืนนา สู่ผืนผ้า” ภูษาขิดกาษรอุดรธานี สินค้าของที่ระลึก

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมภายในงานตลอด 10 วัน อาทิเช่น กิจกรรมการรีดเส้นจากวดพลาสติก, ตู้หยอดเหรียญอัตโนมัติ, ชมการแสดงโชว์ปลาสวยงามและนิทรรศการ, Land mark พืชสวนโลก, งานประกวดกบพ่อพันธุ์ – แม่พันธุ์, การประกวดอาหารเมนูจากกบ “กบทอดกระเทียมพริกไทย” การการแข่งขันอาหาร Udonthani Beef และพบกับเชฟชื่อดัง เชฟชุมพล แจ้งไพร, แฟชั่นโชว์ผ้าไทยใส่ให้สนุก, ประกวดหนูน้อยเกษตรแฟร์, การแสดงคีตตะกวีมวยไทย, กิจกรรมการประกวดภาพถ่ายรับเงินรางวัล, กิจกรรมการประกวดเมนูเสืออุดรฟิวชั่น “เสืออุดรไม่ร้องไห้” การแสดงจากเยาวชน จากองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี และเทศบาลนครอุดรธานี, การแข่งขันกีฬา เพื่อส่งเสริมและพัฒนาการพลศึกษา สุขภาพ การกีฬา นันทนาการ กิจกรรมส่งเสริมการขาย (นาทีทอง) สินค้าอาทิ ไข่ไก่ จากธงฟ้าของกระทรวงพาณิชย์ น้ำมันพืช รวมทั้งสินค้าอุปโภค บริโภค ราคาต่ำกว่าท้องตลาดทุกวัน นอกจากนี้ในงานยังมีการแจกพันธุ์ไม้หลายชนิดให้แก่ประชาชนนำไปปลูกที่บ้านด้วย สำหรับการจัดงานเกษตรแฟร์ฯ ในครั้งนี้ ตั้งเป้าจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ถึง 300 ล้านบาท และประมาณการผู้เข้าร่วมงานตลอดระยะเวลา 10 วัน ไม่น้อยกว่า 100,000 คน

นายไชยา พรหมา รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวเปิดงานว่า จากรายงานของประธานจัดงาน แจ้งให้ทราบว่าการจัดงาน ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างโอกาสทางการตลาดให้กับสินค้าเกษตรคุณภาพ สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล และขับเคลื่อนภาคเกษตรด้วย BCG Economy Model รวมถึงเตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการรายย่อย ในงานพืชสวนโลกในปี 2569 อันถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง
หอการค้าจังหวัดอุดรธานี เป็นหน่วยงาน/ องค์กรภาคเอกชน เป็นหน่วยงานภาคเอกชน ที่มีบทบาทสำคัญยิ่งในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจ เป็นตัวแทนของภาคเอกชนในการร่วมมือกับภาครัฐบาล ที่สะท้อนถึงโอกาสความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนที่เกิดขึ้น

ก็ขอชื่นชมยินดีกับพันธกิจที่หอการค้าจังหวัดอุดรธานี ได้ดำเนินการทั้งในด้านส่งเสริมความสามารถในการแข่งขัน และโอกาสทางการค้าและบริการ ให้กับผู้ประกอบการ ในทุกภาคส่วน ด้วยข้อมูล นวัตกรรม และมาตรฐานในการดำเนินธุรกิจ รวมทั้งการสร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านการเกษตรกับองค์กรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งต่อหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนที่ร่วมจัดงาน รวมทั้งเป็นประโยชน์ต่อสังคม ชุมชน และที่สำคัญ คือ เป็นประโยชน์ต่อตัวของเกษตรกรโดยตรง ที่จะได้เรียนรู้และรับทราบข้อมูล ข่าวสารการพัฒนาเทคโนโลยีการเกษตรที่ทันสมัย สามารถนำองค์ความรู้ ต่าง ๆ ไปพัฒนาระบบการผลิตให้ดีมีมาตรฐาน ทำให้ผลผลิตมีคุณภาพ มีความปลอดภัย สามารถพัฒนาไปสู่การเป็นSmart Agriculture เป็นที่ยอมรับของตลาด และประชาคมโลก ขณะเดียวกันก็ส่งผลให้เกษตรกร มีคุณภาพชีวิต และฐานะทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น

ที่มา : https://www.esandailyonline.com/

นครราชสีมา “ลีแอน” สุนัขทหารพันธุ์ลาบราดอร์ ประมูลสูงสุด 9.5 หมื่น

“ลีแอน” สุนัขทหารเพศเมียพันธุ์ลาบาดอร์ วัย 2 ปี 10 เดือน ราคาประมูลสูงสุดอยู่ที่ 95,000 บาท เจ้าของใหม่เดินทางมาจากกรุงเทพ บอกชอบอยากเลี้ยงเป็นลูก รับกลับบ้านทันที ในการประมูลสุนัขทหาร ราคาเริ่มต้น 1,500 บาท ได้มีประชาชนเข้าร่วมจำนวนมาก

ที่ศูนย์การสุนัขทหาร กรมการสัตว์ทหารบก อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา จำนวน 54 ตัว แยกเป็น 3 สายพันธุ์ ประกอบด้วย ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์, เบลเยียม มาลินอยส์ และ เยอรมันเชเพิร์ด สำหรับราคาการประมูลสูงสุดของวันนี้ เป็นสุนัขหมายเลข 34 เป็นสุนัขพันธุ์ลาบาดอร์เพศเมีย ชื่อ “ลีแอน” วัย 2 ปี 10 เดือน ที่ราคาประมูลอยู่ที่ 95,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงสุดตั้งแต่มีการประมูล

โดยนายวีรชาติ เจ้าของคนใหม่ของลีแอน ที่เดินทางมาจากกรุงเทพเปิดใจว่า ตั้งใจเดินทางมาประมูลสุนัขทหารในวันนี้ โดยตั้งงบไว้ที่ 100,000 บาท ซึ่งมีความตั้งใจอยากจะเลี้ยงสุนัขพันธุ์ลาบาดอร์ และได้เห็น ลีแอน มีความฉลาด อีกทั้งมีจมูกสีชมพู เลยเกิดความชอบ ตั้งใจะเลี้ยงเป็นลูกโดยก่อนหน้านี้เคยเลี้ยงพันธุ์ลาบาดอร์มาแล้วก่อนจะหมดอายุขัย  ลีแอน ได้ผ่านการฝึกมาแล้ว คิดว่าน่าจะมีระเบียบ ดูเรียบร้อย ไม่ซน

ด้านเจ้าหน้าที่หทารผู้ฝึกเลี้ยง ลีแอน เปิดเผยว่าดีใจมากที่น้องได้เจอมีบ้านใหม่ เจอเจ้าของที่รักน้อง ซึ่งสายพันธุ์ลาบาดอร์ มีความน่ารัก เข้ากับคนง่าย การเลี้ยงไม่ยากให้อาหารวันละ 1 มื้อ รวมถึงพาไปรีแลกซ์ท่องเที่ยว เดินเล่นบ้าง

ทั้งนี้สุนัขที่ได้รับการฝึกจากศูนย์การสุนัขทหาร กรมการสัตว์ทหารบก อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา จะมีทั้งตัวที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกเพื่อส่งต่อไปปฏิบัติภารกิจทางการทหาร ตรวจค้นวัตถุระเบิด ภารกิจกู้ภัยกู้ชีพ ตรวจค้นยาเสพติด ป้องกันอาชญากรรม

ส่วนตัวที่ไม่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือก เช่น สภาพร่างกาย อ้วนเกินไป บุคลิกไม่เล่น ไม่คาบ นิสัยใจคอนิ่งเฉย ไม่สนใจสิ่งแวดล้อม เชื่องช้า เฉื่อยชา ปฏิกิริยาตอบสนองทำตามคำสั่งไม่ได้ ขาดไหวพริบและความกระตือรือร้น ก็จะถูกนำมาประมูลเพื่อให้ประชาชนที่สนใจรับไปเลี้ยงต่อ หรือให้น้องหมาได้บ้านใหม่

ขณะที่ครอบครัวหนึ่งที่เดินทางมาจากจังหวัดสมุทรปราการ เผยว่าได้เตรียมเงินสดจำนวน 30,000 บาท เตรียมมาประมูล โดยสนใจสุนัขสายพันธุ์ เยอรมันเชฟเพิร์ต เพราะว่าเคยเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์นี้มาก่อนและอยากได้สุนัขเพศผู้อายุ ไม่เกิน 3 ปี ส่วนเหตุผลที่สนใจร่วมประมูล เพราะเป็นสุนัขที่ผ่านการฝึกสอนการรับฟังคำสั่งเบื้องต้นแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่าสำหรับรายได้จากการประมูลครั้งนี้นำเข้าหน่วยงานคลัง เพื่อใช้ในโครงการที่เกี่ยวข้องกับสุนัขทหารที่ต้องปฏิบัติภารกิจต่อไป

ที่มา : https://www.esandailyonline.com/

บึงกาฬ – พิธีเปิดโครงการแข่งขันกีฬาเยาวชนและประชาชน ต้านยาเสพติด รู้รักสามัคคี เทศบาลตำบลไคสี อำเภอเมือง จังหวัดบึงกาฬ

อาจเป็นรูปภาพของ 4 คน และ ฝูงชน
อาจเป็นรูปภาพของ 9 คน และ ต้นไม้
อาจเป็นรูปภาพของ 5 คน

ที่สนามกีฬาโรงเรียนบ้านห้วยเซือมเหนือ วันที่ 23 ธันวาคม 2566 เวลา 09.30 น. นายไตรภพ รำเพยพล รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ ได้เดินทางมาเป็นประธานพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาเยาวชน ต้านยาเสพติดเทศบาลตำบลไคสี โดยมีนายสยาม เพ็งทอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร บึงกาฬ เขต 1, นายถิรเดช ไชยโภค สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ อำเภอเมือง เขต 2, นายทวี จิตวิขาม นายกเทศมนตรีตำบลไคสี, คณะผู้บริหารเทศบาลไคสี สมาชิกสภาเทศบาลไคสี กำนันผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการจัดงาน เจ้าหน้าที่ นักกีฬา และประชาชนในเขตตำบลไคสี ร่วมพิธีเปิด การแข่งขันกีฬาต้านยาเสพติด เพื่อสร้างความปรองดองสมานฉันท์ในชุมชน ซึ่งเทศบาลไคสี อ.เมือง จ.บึงกาฬ จัดขึ้นเพื่อเป็นการปลูกฝังให้เยาวชน ประชาชนภายในตำบลไคสีเกิดความรัก ความสามัคคี และรู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองทางด้านร่างการและจิตใจ

อาจเป็นรูปภาพของ 10 คน, ต้นไม้ และ ข้อความ
อาจเป็นรูปภาพของ 8 คน, วัด และ ข้อความ

พร้อมทั้งเป็นการส่งเสริมให้เยาวชนและประชาชนได้มีโอกาสแสดงความสามารถด้านกีฬา ให้เป็นบุคคลที่มีน้ำใจ รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย และให้การแข่งขันกีฬาเป็นกิจกรรมต่อต้านยาเสพติดซึ่งเป็นปัญหาต่อสังคมในท้องถิ่น ซึ่งกีฬาประเภทแรกที่สร้างสีสันความสนุกสนาน ให้กับชาวบ้าน ในเขตเทศบาลตำบลไคสี และ 10 หมู่บ้านที่ส่งตัวแทนนักกีฬา รวมไปถึง กองเชียร์ นักกีฬา ก็จะเป็นการแข่งกีฬาพื้นบ้าน ตีกอฟล์ชาย เตะปี๊บชาย ซึ่งมีทั้งนายกเทศบาลตำบลไคสี ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชน เข้าร่วมการแข่งขัน นอกจากนี้ ยังมีการแข่งขันวิ่งผลัดทูนถาด หญิง ชาย ที่สนุกสนาน สร้างเสียงหัวเราะไม่แพ้กัน ให้กับชาวบ้านทั้งผู้ใหญ่ เด็กๆ ที่มาร่วมชม ร่วมเชียร์ในครั้งนี้ ซึ่งการแข่งขันกีฬาพื้นบ้านครั้งนี้ รางวัลสำหรับผู้ที่ชนะเลิศ และรองชนะเลิศ ก็จะเป็นรางวัลเล็กๆ น้อยๆ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับนักกีฬา ที่สำคัญมากไปกว่านั้น การแข่งขันครั้งนี้ ได้ส่งเสริมให้ประชาชนในพื้นที่ตำบลลำใหม่ มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมร่วมกัน ก่อให้เกิดความรัก ความสามัคคี และความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน อันจะนำมาซึ่งความสงบ สันติสุขในพื้นที่อย่างยั่งยืนสำหรับการแข่งขันกีฬาต้านยาเสพติด เพื่อสร้างความปรองดองสมานฉันท์ ในชุมชนเทศบาลไคสี

อาจเป็นรูปภาพของ 12 คน และ ข้อความ
อาจเป็นรูปภาพของ 11 คน และ ข้อความ

เป็นโครงการที่ทางเทศบาลไคสีจัดขึ้น เป็นประจำอย่างต่อเนื่องทุกปี ซึ่งปี 2566 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 23-24 ธันวาคม 2566 มีการแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอลชาย และหญิง กีฬาตะกร้อชาย และกีฬาพื้นบ้าน ณ สนามกีฬาโรงเรียนบ้านห้วยเซือมเหนือ ตำบลไคสี อำเภอเมือง จังหวัดบึงกาฬ มีการแข่งขันกีฬาฟุตบอลประเภทประชาชนชายทั่วไป และประเภทอาวุโส ระหว่าง ทีมปกครองในตำบลไคสี และทีมปกครองส่วนท้องถิ่นเทศบาลไคสี โดยมีผู้เข้าร่วมโครงการฯ เป็นประชาชน หมู่ที่ 1 ถึงหมู่ที่ 10 ในพื้นที่ตำบลไคสี และประชาชนในเขตพื้นที่ เทศบาลตำบลไคสี ข้าราชการ, เจ้าหน้าที่, ผู้นำท้องที่, ผู้นำชุมชน และสมาชิกสภา กีฬาที่จัดการแข่งขันในครั้งนี้ มีกีฬาสากล จำนวน 5 ประเภท ได้แก่ กีฬาฟุตบอล ประเภทประชาชนชาย กีฬาฟุตบอล ประเภทประชาชนชายอาวุโส กีฬาตะกร้อ ประเภทประชาชน กีฬาวอลเลย์บอล ประเภทประชาชนหญิง กีฬาวอลเลย์บอล ประเภทประชาชนชาย และกีฬาพื้นบ้าน มีนักกีฬา รวมทุกประเภท จำนวน 487 คน

ณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล ข่าว/ภาพ

มหาสารคาม – เปิดแล้วแลนด์มาร์คใหม่ ตลาดวังยาวมาร์เก็ต WANGYAO MARKET กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนมีรายได้

เปิดแล้วแลนด์มาร์คใหม่มหาสารคาม ตลาดวังยาวมาร์เก็ต Wangyao Market กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนมีรายได้ วันที่ 18 ธ.ค .2566ตลาดวังยาวมาร์เก็ต Wangyao Market แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของชาวมหาสารคาม แหล่งช็อปปิ้ง และร้านอาหารมากมาย ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัว “ศิริพรหมโชติ” เนรมิตพื้นที่กว่า 30 ไร่ เป็นแหล่งรวมสินค้า เสื้อผ้าแฟชั่น ของกินของใช้ ร้านค้าร้านอาหาร รวมไปถึงที่จอดรถสะดวกสบาย ซึ่งเป็นการเปิดพื้นที่ค้าขายให้กับชาวมหาสารคามและใกล้เคียง ได้มีพื้นที่สร้างรายได้ และให้ผู้บริโภคได้เลือกซื้อสินค้าในราคาที่จับต้องได้

โดยนายภาคิน ติระพงษ์ไพบูลย์ นายกเทศมนตรีเมืองมหาสารคาม เป็นประธานกล่าวเปิดงาน โดยนายภาคิน กล่าวว่า ในการเลือกตลาดวังยาวมาร์เก็ต ถือเป็นแลนด์มาร์คใหม่ของจังหวัดมหาสารคาม ซึ่งมีสินค้า รวมถึงร้านอาหารมากมาย ที่จะสร้างโอกาสการทำธุรกิจ เป็นแหล่งสร้างรายได้ให้กับพ่อค้าแม่ค้า ในชุมชน ตลอดจนผู้บริโภคก็สามารถเลือกซื้อสินค้าได้ตามความต้องการ มีสินค้าชุมชนไว้ให้เลือกซื้อจากหลายพื้นที่

สำหรับภาพรวมบรรยากาศในตลาดวังยางมาร์เก็ต จะเปิดให้บริการในช่วงเวลาประมาณ 16.30 – 24.00 น. ของทุกวัน ภายในแบ่งโซนมีร้านค้า ร้านอาหาร กว่า 200 ร้านค้า มีพื้นที่ให้นั่งรับประทานอาหาร พักผ่อนชิล ๆ และในช่วงนี้ใกล้ช่วงเทศกาลคริสต์มาสต์และเทศกาลปีใหม่ 2024 ทางตลาดได้จัดจุดเช็คอิน เป็นต้นคริสต์มาสต์ขนาดความสูงกว่า 5 เมตร พร้อมประดับตกแต่งธีมคริสต์มาสต์ให้ได้ถ่ายรูปกันแบบชิค ๆ คลู ๆ อีกด้วย นักท่องเที่ยวต่างให้ความสนใจเข่ร่วมแห่เช็คอิน ร่วมชอปสินค้าและอาหาร

งานแถลงข่าว “Smart Buengkan Flower Farm Festival 2024” ในวันพุธ ที่ 20ธันวาคม 2566เวลา 17.00น.ณ ศูนย์การเรียนรู้เทคโนโยลีชุมชนนานาชาติ สมาร์ทบึงกาฬ ตำบลหอคำ อำเภอเมือง จังหวัดบึงกาฬ

ไม่มีคำอธิบาย
ไม่มีคำอธิบาย
ไม่มีคำอธิบาย

Smart Buengkan องค์กรเอกชนผู้วางงานพัฒนาที่ดินเนรมิตพื้นที่สวนดอกไม้งามให้เป็นสวนแห่งความสุข ส่งมอบความสนุกศักราชใหม่ 2567 ให้ผู้มาเยือนได้เพลิดเพลินไปกับมวลดอกไม้นานาพันธุ์ โดยนางลัลน์ ลลิตฤดี วิเศศศิริ นายกสมาคมสมาพันธ์ (นักข่าวประเทศไทย) กล่าวว่าในงานมหกรรมดอกไม้งาม “Smart Buengkan Flower Farm Festival 2024” ภายใต้แนวคิด “ส่งความสุขผ่านดอกไม้งาม…ถึง…ดวงดาว” เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวชุมชน และเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับนักท่องเที่ยว อีกทั้งส่งเสริมและกระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมกับการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานการท่องเที่ยว อันเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับจังหวัดบึงกาฬ โดยจะทำให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังจังหวัดบึงกาฬ ได้สัมผัสธรรมชาติและวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของพื้นที่จังหวัดบึงกาฬเพิ่มมากขึ้น ทำให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ ให้แก่พื้นที่จากการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยกำหนดจัดงานแถลงข่าว ในวันพุธ ที่ 20ธันวาคม 2566 เวลา 17.00 น. ณ ศูนย์การเรียนรู้เทคโนโยลีชุมชนนานาชาติ สมาร์ทบึงกาฬ ตำบลหอคำ อำเภอเมือง จังหวัดบึงกาฬ

ไม่มีคำอธิบาย
ไม่มีคำอธิบาย
ไม่มีคำอธิบาย

ขอนแก่น – มติคณะกรรมการลุ่มน้ำชี “เพิ่มการระบายน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ ลดการระบายน้ำเขื่อนลำปาว วันละ 3 ล้าน ลบ.ม.”

คณะกรรมการลุ่มน้ำชี ประชุมหารือการบริหารจัดการน้ำ ร่วมกันมีมติ เพิ่มการระบายน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ลดการระบายน้ำเขื่อนลำปาววันละ 3 ล้านลูกบาศก์เมตร

เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานการประชุมคณะบริหารจัดการน้ำจังหวัดขอนแก่น ซึ่งได้ประชุมกันเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2566 เวลา 13.30 น.นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นและประธานคณะกรรมการลุ่มน้ำชี ได้ประชุมคณะกรรมการลุ่มน้ำชีทั้งหมด เพื่อประชุมการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ มีคณะกรรมการเข้าร่วมครบ ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู ตัวแทนผู้ว่าราชการ จังหวัดชัยภูมิ, กาฬสินธุ์, มหาสารคาม, ร้อยเอ็ด, ยโสธร, อุบลราชธานี และเพชรบูรณ์ เข้าร่วม โดยวาระสำคัญคือ การปล่อยน้ำเพิ่มของเขื่อนอุบลรัตน์จังหวัดขอนแก่น และลดระดับการปล่อยน้ำของเขื่อนลำปาวจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งมติที่ประชุม “ให้เพิ่มการปล่อยน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ จากปกติที่ปล่อยปัจจุบันวัน ละ 15 ล้านลูกบาศก์เมตร เพิ่มขึ้นแบบขั้นบันได วันละ 3 ล้าน ลบ.ม. วันแรก 19 ตุลาคม 2566 เพิ่มเป็น 18 ล้าน ลบ.เมตร”

เนื่องจากน้ำในเขื่อนมีปริมาณเกิน 100% ของความจุอ่าง ปัจจุบันมีน้ำในเขื่อน 114% ของความจุอ่าง ในส่วนของเขื่อนลำปาว ให้ลดระดับการปล่อยลง วันละ 3 ล้าน ลบ.เมตร และเมื่อน้ำอยู่ในภาวะปกติไม่เกิน 100% ของเขื่อนลำปาว ก็จะหยุดปล่อยน้ำก่อน เพื่อให้น้ำเขื่อนอุบลรัตน์ ที่เกิน 100% ปล่อยไปก่อน

สำหรับพื้นที่ใต้เขื่อนอุบลรัตน์ ในเขตอำเภอน้ำพอง อำเภอเมือง ก็จะมีผลกระทบไม่มาก แต่ก็เตือนหมู่บ้านรอบลำน้ำพอง ยกของขึ้นสู่ที่สูง โดยจะปล่อยน้ำไปถึงระดับ 25ล้าน ลบ.เมตร ก็จะให้เขื่อนอุบลรัตน์ และชลประทานภาค 6 คุยกันอีกรอบ ประเมินสถานการณ์อีกครั้งหนึ่ง สำหรับการเตรียมความพร้อมมีการใช้เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ของกรมชลประทาน สูบน้ำเร่งน้ำที่มหาสารคาม เพื่อให้น้ำไหลได้เร็วขึ้น เพื่อควบคุมน้ำไม่ให้เกินตลิ่ง ทั้งลำน้ำพองและลำน้ำชี

ปัจจุบันน้ำพองตลอดสาย น้ำยังไม่เกินตลิ่ง สำหรับน้ำในลำน้ำชี ตอนนี้หัวน้ำเข้าสู่พื้นที่จังหวัดขอนแก่น แล้วแต่ก็ยังควบคุมน้ำได้ และบริหารจราจรน้ำได้อีกไม่เกินหนึ่งอาทิตย์ หัวน้ำก็ผ่านจังหวัดขอนแก่น เข้าสู่ภาวะปกติ ส่วนน้ำท่วมจะได้รับผลกระทบน้อยกว่า ปี 2565 โดยน้ำก้อนนี้จะไหลไปถึงจังหวัดอุบลราชธานี ในอีกหนึ่งเดือน ซึ่งก็เข้าสู่หน้าหนาว และน้ำก็จะไม่เกินตลิ่ง เกษตรกรก็เก็บเกี่ยวข้าวเสร็จแล้ว

สำหรับการระบายน้ำของเขื่อนอุบลรัตน์ เป็นระบบขั้นบันได โดยจะเริ่มจาก วันที่ 19 ตุลาคม 18 ล้าน ลบ.ม. วันที่ 20 ตุลาคม 21 ล้าน ลบ.ม. วันที่ 21 ตุลาคม 24 ล้าน ลบ.ม. และวันที่ 22 ตุลาคม 2566 25 ล้าน ลบ.ม.

ชีวากรุ๊ป เปิดอบรมหลักสูตรพัฒนาอสังหาจากเริ่มต้นจนประสบความสำเร็จ ณ เขาใหญ่

ชีวากรุ๊ป เปิดอบรมหลักสูตรโดยผู้เชี่ยวชาญจริงจากประสบการณ์มากกว่า 35 ปี โดย
ผศ.ดร.ภัทรพล เวทยสุภรณ์ ( อ. เชี่ยว ชอบช่วย) CEO ผู้บริหารและผู้ก่อตั้งสถาบันอสังหาชีวากรุ๊ป

ประสบการณ์ตรง ที่ ทำอสังหาฯ ไม่เคยขาดทุน มาพบกับเคล็ดลับ ในคอร์สเรียนนี้

องค์ความรู้ที่จะเผยแพร่ในหลักสูตรพิเศษนี้

1 สอนตั้งแต่พัฒนาอสังหาจากเริ่มต้นจนประสบความสำเร็จ

2 ผู้ที่ มองหาอสังหาและสนใจในสาขารวมถึงความมั่งคงมั่งคั่งเรื่องสุขภาพที่ดี
ปัจจัย 4 ที่สำคัญต่อการดำรงชีวิต
1 ที่อยู่อาศัย
2 อาหารที่ดีมีคุณภาพ
3 ยารักษาโรคที่ดีที่สุด
4 เครื่องนุ่งห่ม

3 รับสินค้าเพื่อดูแลสุขภาพมูลค่ามากกว่า 5000 บาท

4 สัมมนาหลักสูตร สร้างบ้านเดี่ยวเสร็จใน 2 วันโดยงบประมาณ 250,000 บาท

5 สร้างคอนโดอย่างไรไม่ต้องกู้ทุนมูลค่า 1,000 ล้านบาท
การันตีผลงาน500 โครงการจากผู้ช่วยศาสตราจารย์ดอกเตอร์ภัทรพล เวทยสุภรณ์(เชี่ยว ชอบช่วย)

6 คอนโดในโครงการชีวากรุ๊ป ส่วนลด 30-50% โดยเฉพาะโครงการเพชรมาลีมายโอโชนที่เขาใหญ่และอีกหลายโครงการ

https://youtu.be/CGon4PUyIqI

“เวลเนส เวิลด์ ชีวา คอร์ปอเรท” เมืองสุขภาวะดีแห่งใหม่ ตอบโจทย์ผู้รักษ์สุขภาพที่กำลังมองหาที่พักอาศัยในวัยเกษียณหรือพักผ่อนเพื่อฟื้นฟูสุขภาพ ณ เขาใหญ่ ดินแดนมรดกโลกทางธรรมชาติ เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2565 ณ เวลเนส เวิลด์ อยุธยา นพ.บุญชัย อิศราพิสิษฐ์ ประธานกรรมการ บริษัท เวลเนส เวิลด์ (ประเทศไทย) นายแพทย์ที่มีปณิธานมุ่งมั่นในการทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในโลกที่โรค NCDs ลดลง โดยการสร้างเมืองสุขภาวะดีเพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกมิติ ร่วมกับ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ภัทรพล เวทยสุภรณ์ หรืออาจารย์เชี่ยว ชอบช่วย สถาปนิกและผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ ผู้ดำเนินรายการและวิทยากรรายการคนรักบ้าน และผู้บริหาร บริษัท ชีวา กรุ๊ป ทั้งสองฝ่ายได้จัดทำบันทึกข้อตกลงการร่วมมือกัน จัดตั้ง “บริษัท เวลเนส เวิลด์ ชีวา คอร์ปอเรท” หรือ WCC เพื่อร่วมกันสร้างและพัฒนาเมืองสุขภาวะดี ณ เขาใหญ่ เวลเนส เวิลด์ ชีวา คอร์ปอเรท จะเปิดให้บริการที่พักอาศัยแก่ผู้รักษ์สุขภาพแบบครบวงจร มีบริการทางการแพทย์ตามวิถีธรรมชาติบำบัดประยุกต์ ที่บูรณาการทั้งการแพทย์แผนปัจจุบันและแพทย์ทางเลือกเข้าไว้ด้วยกัน นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมสุขภาพทั้งระยะสั้นและระยะยาวที่หลากหลาย รวมไปถึงกิจกรรมบำบัดเพื่อการฟื้นฟูสุขภาพ แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติ และอากาศที่บริสุทธิ์ ณ ผืนป่าเขาใหญ่ นับเป็นการดูแลสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจในแบบองค์รวม

7 พักโรงแรม 2 วัน 1 คืน พร้อมอาหารเพื่อสุขภาพจากเชฟ ระดับโลก

8 ส่วนลดจากคอร์สเวลเนส ดูแลสุขภาพ

ด่วนรับจำนวนจำกัดค่าสมัครสมาชิกเพียง 5,000 บาทตลอดชีพได้รับสิทธิ์อีกมากมาย

ติดต่อ: คุณกร 0933291642

ID line.kusonkon88

ขอนแก่น สวนสัตว์ขอนแก่น จับฮิปโปโปเตมัส ทำฟัน หลังพบเขี้ยวทิ่มเหงือก

สวนสัตว์ขอนแก่น ตรวจสุขภาพฟันและรักษาช่องปาก “นำโชค” ฮิปโปโปเตมัส หลังพบเขี้ยวข้างล่างทั้งสองข้างยาว ทิ่มแทงเหงือกด้านบน ตามหลักสวัสดิภาพสัตว์ เปิดประสบการณ์การเรียนรู้ให้นายสัตวแพทย์รุ่นใหม่ และนักศึกษาฝึกงาน

ที่สวนสัตว์ขอนแก่น จัดให้นายสัตวแพทย์เข้ารักษาช่องปากของ “นำโชค” ฮิปโปโปเตมัส สวนสัตว์ขอนแก่นหลังพบเขี้ยวข้างล่างทั้งสองข้างยาว ทิ่มแทงเหงือกด้านบน “นำโชค” ฮิปโปโปเตมัส เพศผู้ เกิดเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2548 ปัจจุบันอายุ 18 ปี ย้ายมาจากสวนสัตว์นครราชสีมา เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2558 ปัจจุบัน สวนสัตว์ขอนแก่น มีฮิปโปโปเตมัสจำนวน 4 ตัว เพศผู้ 2 ตัว เพศเมีย 2 ตัว ฮิปโปโปเตมัส ลักษณะเป็นสัตว์ที่มีรูปร่างกลมใหญ่เทอะทะ และมีปากกว้างมาก เขี้ยวล่างยาวโค้งเป็นอาวุธสำคัญประจำตัว สังเกตเห็นเส้นขนได้บริเวณรอบปาก และใกล้กับปลายหาง ส่วนลำตัวเมื่อมองดูแล้วคล้ายกับไม่มีขน แต่ที่จริงแล้วลำตัวของฮิปโปโปเตมัส มีขนเส้นที่เล็กมากๆ และกระจายอยู่ห่างๆ กัน หนังหนามีต่อมเมือกใต้ผิวหนังจะผลิตเมือกเหลวออกมา เมื่อโดนแสงแดดจะค่อยๆกลายเป็นเมือกสีแดงอ่อนคล้ายเลือด ฮิปโปโปเตมัสอาศัยในทวีปแอฟริกา อูกันดา ซูลูแลนด์ตอนเหนือ ทรานสวาลล์ เคนยา เซเนกัล อาหารฮิปโปโปเตมัสกินหญ้า พืชน้ำ ใบไม้ ลูกไม้ และพืชผลต่างๆ พฤติกรรมชอบอยู่รวมกันเป็นฝูง ปกติชอบอยู่ในน้ำในตอนกลางวันและขึ้นบกมาหากินตอนกลางคืน ทนต่อความหนาวได้ดี ชอบอาศัยอยู่ในน้ำนิ่งหรือน้ำไหลเอื่อย ๆ ปกติไม่ดุ แต่ในช่วงผสมพันธุ์ตัวผู้จะต่อสู้กันอย่างดุร้าย จะดุเวลาตกใจหรือได้รับบาดเจ็บ และแม่ลูกอ่อนจะดุมาก ดำน้ำเก่ง สามารถเดินท่องอยู่ใต้น้ำได้ สถานภาพในปัจจุบันสิ่งมีชีวิตที่เกือบอยู่ในข่ายใกล้การสูญพันธุ์

นายณรงวิทย์ ชดช้อย ผู้อำนวยการสวนสัตว์ขอนแก่น กล่าวว่า สวนสัตว์ขอนแก่น ได้มีการตรวจรักษาช่องปากฮิปโปโปเตมัส ชื่อ “นำโชค” เนื่องจากได้พบว่ามีการกินอาหารน้อยลง โดยพบว่ามีเขี้ยวข้างล่างทั้งสองข้างยาว และทิ่มแทงเหงือกด้านบนทำให้เกิดความเจ็บปวดขณะในการเคี้ยวอาหาร จึงได้ดำเนินการรักษาโดยการตัดเขี้ยว ให้ “นำโชค” ตามหลักสวัสดิภาพสัตว์ โดยทำการตัดเขี้ยว ด้านล่างซ้ายขนาดความยาว 13 เซนติเมตร ด้านล่างขวาขนาดความยาว 11เซนติเมตร ด้านบนซ้ายขนาดความยาว 4 เซนติเมตร ด้านบนขวาขนาดความยาว 5เซนติเมตร ซึ่งในปฏิบัติการรักษาดังกล่าว ได้รับความร่วมมือจากนายสัตวแพทย์ จากสถาบันอนุรักษ์และวิจัยสัตว์ สวนสัตว์เปิดเขาเขียว เข้ามาร่วมในการรักษาช่องปากให้ “นำโชค” ได้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี และในการรักษาช่องปาก “นำโชค” ในครั้งนี้ เป็นการเผยแพร่ความรู้ทักษะ และประสบการณ์ ในการรักษาให้แก่นายสัตวแพทย์รุ่นใหม่ และนักศึกษาฝึกงานที่เข้ามาเรียนรู้ภายในสวนสัตว์ขอนแก่น ซึ่งเป็นประสบการณ์จริงที่ไม่สามารถเรียนรู้ได้ในรั้วมหาวิทยาลัย สวนสัตว์ขอนแก่นจึงอยากจะเชิญชวนนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมความน่ารักของ “นำโชค” พร้อมครอบครัวได้ที่สวนสัตว์ขอนแก่นได้ทุกวัน